บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์เพื่อความยั่งยืนของไทยและผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล, โครงการที่อยู่อาศัย, โรงแรม และอาคารสำนักงานทั่วประเทศ ร่วมกับสมาคมกาแฟพิเศษไทย (SACTH) ต่อยอดความสำเร็จเทศกาลกาแฟที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง ครั้งที่ 2 “THAILAND COFFEE HUB 2023 – centralwOrld” ตาม Brand Purpose ในการเป็น The Global Ecosystem for All สร้างคุณค่าให้กับกาแฟไทย ร่วมกับชุมชน สังคม องค์กร และทุกภาคส่วน ตั้งแต่ coffee farmer ถึง coffee person สานต่อไปยังผลิตภัณฑ์อื่น ทั้ง ชา โกโก้ ช็อกโกแลต น้ำผลไม้ เบเกอรี่ และอีกมากมาย จากการสร้าง Coffee Hub ในแต่ละภูมิภาค ขยายไปทั่วประเทศ และผลักดันถึงระดับโลกในที่สุด ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกันคือ “Imagining better futures for all” สร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับทุกคน คาดว่าการจัดงานปีนี้ จะสามารถดึงคนเข้าร่วมงานได้ประมาณ 1 ล้านคน และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท งานนี้จะเริ่มตั้งแต่ 4 ต.ค. 66 – 10 ต.ค. 66 ณ ลาน Eden 1,2,3 / Central Court / Dazzle / Beacon 2,3,4 และ Temp 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวอย่างชัดเจนว่า “เทศกาลกาแฟ THAILAND COFFEE HUB 2023 ไม่ใช่งานกาแฟทั่วไปที่จัดตามเทรนด์ เพราะเซ็นทรัลพัฒนาได้ตั้งจุดยืนตั้งแต่แรกตาม Brand Purpose ที่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟโดยรวม โดยมุ่งมั่นสร้าง Coffee Hub ในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นแกนหลักในการรวมเพชรเม็ดงามทุกสายอาชีพแห่งวงการกาแฟ สร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่ง พร้อมเติบโตก้าวหน้าไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ รวมทั้งหอการค้าและสมาคมที่เกี่ยวข้อง โดยมีเรื่องสิ่งแวดล้อม ชุมชน คนและสังคม เข้ามาเป็นบริบทสำคัญ เพื่อผลักดัน ‘Local to Global’ ให้กาแฟไทยคุณภาพดีในแต่ละชุมชนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ”
“งานเทศกาลกาแฟ THAILAND COFFEE HUB ที่ผ่านมา จะมีร้านเด่นๆ ของแต่ละภูมิภาคเข้าร่วมงานเสมอ เช่น การจัดงานที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา มีร้าน Specialty Coffee ดังๆ ประจำภาคตะวันออก มาร่วมกว่า 20 แบรนด์ อาทิ Sila Roaster, Rosetta Roastery : Specialty Coffee, Sunset Coffee Roaster, Summer Please และที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ ก็เป็นการรวม Best Brew of South ร้านกาแฟพิเศษชื่อดังจากทั่วภาคใต้มาไว้ในงานเดียว อาทิ Cuppa Coffee จ.สุราษฎร์ธานี, Heart Made Roastery จ.สงขลา, D’Art Café & Coffee Lab จ.นราธิวาส, ว่าง Cafe’ & Bistro จ.ปัตตานี เป็นต้น” ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าวเสริม
สำหรับงานเทศกาลกาแฟ “THAILAND COFFEE HUB 2023 – centralwOrld” ครั้งนี้ คัดสรรกาแฟรสชาติดี คุณภาพเยี่ยม จากทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก เพื่อคอกาแฟตัวจริง โดยเฉพาะ “กาแฟพิเศษ” (Specialty coffee) ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ และพิเศษขึ้นไปอีกระดับสู่ “กาแฟคุณภาพระดับซูพีเรีย” (Superior quality coffee) มีให้เลือกหลายแบรนด์ ซึ่งทุกแบรนด์เป็น “กาแฟซิงเกิลออริจิน” (Single origin coffee) มาจากแหล่งปลูกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากกาแฟยังมีเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่สามารถมิกซ์ รวมกับกาแฟได้อย่างลงตัว รวมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์กาแฟ สำหรับร้านค้าและบรรดา coffee love ที่ต้องการชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน และกิจกรรมที่ช่วยสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจดีดีให้กับทุกคน ดังนี้
• Thai Coffee Hub รวมแบรนด์กาแฟพิเศษชื่อดังทั่วไทย อาทิ Bluekoff, Yellow Stuff, Fellow Thailand, Nana Coffee Roaster, Bottomless, The Summer Coffee Company และอื่นๆ
• Don’t Miss SIP THAI พบกับกิจกรรมพิเศษ จากสมาคมกาแฟพิเศษไทย (SCATH)
o ชิมฟรีกาแฟดีกรีแชมป์ ครบทั้ง 3 Process จาก 30 เมล็ดกาแฟที่ได้รับรางวัลจากเวที Thailand Specialty Coffee Award 2023
o Workshop เรียนชงกับกูรู สนุกจากกูรูกาแฟตัวจริง ที่จะมาสอนชง สอนชิมกาแฟแบบอบอุ่น เป็นกันเอง
o Coffee Table ดื่มด่ำกาแฟรูปแบบ Omakase เสิร์ฟกาแฟสูตรพิเศษจากบาริสต้าอันดับต้นของประเทศ
• The Coffee Idols กระทบไหล่ 25 กูรูกาแฟชื่อดัง มาชงกาแฟพร้อมแชร์ประสบการณ์กาแฟตลอดการจัดงาน อาทิ คุณบรูน่า ซิลวา Youtuber สายกาแฟสาวบราชิล, คุณ Liz Shen จาก Beanslooker บาริสต้าสาวสวยแซ่บ สาย Coffee Goods Spirit ดีกรีระดับประเทศ, คุณหมู จาก Bottomless ผู้คร่ำหวอดในวงการ Thai Specialty Coffee มายาวนาน, คุณเบน จาก Brew Lab ไอดอลของบาริสต้ารุ่นใหม่, คุณปิ จาก Gallery Drip อาจารย์ในวงการกาแฟพิเศษไทย เจ้าของฉายา Drip King เป็นต้น
• World Coffee Culture เปิดประสบการณ์กาแฟต้นตำรับจากทั่วโลก อาทิ
o ชมการสาธิตชงกาแฟในแบบฉบับญี่ปุ่น ในเอกลักษณ์ความพิถีพิถันเพื่อรสชาตินุ่มลึก โดย Mr. Yasuo Suzuki ผู้ก่อตั้ง Trunk Coffee ร้านกาแฟชื่อดังจากนาโกย่า
o เปิดโลกกาแฟเอธิโอเปีย สัมผัสมนต์ขลังแห่งการชงกาแฟจากต้นตำรับเจ้าของสายพันธุ์กาแฟที่โด่งดังไปทั่วโลก โดย Taye Ethiopian Coffee
o สัมผัสกาแฟเวียดนามแบบดั้งเดิม กับ Stupiducks Specialty Coffee โรงคั่วชื่อดังแห่งเวียดนาม ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
• Coffee item สำหรับสาย Home Brewer ตั้งแต่ Beginner จนถึงระดับ Professional จากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Fellow Thailand, Yellow Stuff, Hario, Timemore Thailand, Bialetti, Koffee Mart, Another Cup, Duralex, แก้วกาแก้วแฟ เป็นต้น
• Happy Coffee Farmer เมล็ดกาแฟสดจากไร่คุณภาพดีทั่วไทย อาทิ
o Monberry Coffee by “ม่อนมาตุภูมิ” รวมเมล็ดกาแฟจากหลายดอยที่เชียงใหม่ ปลูกกาแฟแบบออร์แกนิคใต้ต้นลำไยออร์แกนิค ทำให้กาแฟมีรสหวานธรรมชาติ และมีลักษณะเฉพาะ
o กาแฟขุนช่างเคี่ยน โดยวิสาหกิจชุมชนขุนช่างเคี่ยน เพาะปลูกเมล็ดกาแฟบนพื้นที่ 4,000 ไร่ บนอุทยานดอยสุเทพ-ดอยปุย เชียงใหม่ มายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ และได้รับรางวัลจาก SCAT (Specialty Coffee Association Thailand) ตั้งแต่ปี 2559
o กาแฟขุนน่าน จากร้านกาแฟ Specialty of Nan, Thailand รวมเมล็ดกาแฟดีใน จ.น่าน และร้อยเรียงเรื่องราวระหว่างป่า กาแฟ ชุมชน ได้อย่างอบอุ่นใจ โดยเป็นการ “ปลูกป่าขึ้นมาเพื่อปลูกกาแฟ” “ป่าดูแลกาแฟ” และ “กาแฟดูแลชาวบ้าน”
o Kim coffee roaster โรงคั่วกาแฟเล็กๆ ใน อ.ละแม จ.ชุมพร ที่มีสวนกาแฟ Robusta เป็นของตัวเอง Processed กาแฟเอง และยังมีกาแฟ Robusta จากแหล่งต่างๆ อีกมากมาย
• 50 Signature menus กาแฟจากร้านดังที่ห้ามพลาด อาทิ Espressom จาก Have a Nice Day Café, Wake Up จาก Nana Coffee Roaster, Orangidutch จาก Pour Over Lab, Moscow จาก Coffee Factory, Espresso Tonic จาก Varinda Specialty Coffee เป็นต้น
• The Coffee Lifestyle
o Cub House x Sarnies Bangkok ครั้งแรกกับการ collaborate ระหว่าง CUB House by Honda กับร้านกาแฟแบรนด์ดังจากสิงคโปร์ที่กำลังดังในกระแสอย่าง Sarnies ที่จะ ครีเอทเมนูพิเศษเฉพาะสำหรับงานนี้เท่านั้น
o Pirom Coffee พัฒนาเมล็ดกาแฟ Fine Robusta เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่รสชาติเยี่ยม และสูตรกาแฟพิเศษต่างๆ รวมถึงโกโก้ที่ชนะการประกวดจากหลายเวทีมาไว้ที่นี่
o Tipco Art of SIP & SAVOUR ภายใต้คอนเซปต์ “Let’s You Enjoy from Sunrise to Sunset” สนุกกับการดื่มน้ำผลไม้แท้ผสมเครื่องดื่มต่างๆ ตั้งแต่กาแฟยามเช้าจนค็อกเทลแก้วโปรดยามค่ำ
o Birdy Café เปิดตัวใหม่! “Birdy® Café Series” ชูคอนเซ็ปต์กาแฟสด พร้อมเสิร์ฟทุกที่ ทุกเวลา ให้ทุกคนสามารถดื่มกาแฟแบบฟีลคาเฟ่ได้ที่บ้าน หรือที่ทำงาน ด้วยการคัดสรรเมล็ดกาแฟไทยสายพันธุ์โรบัสต้าคุณภาพจากเกษตรกรไทย 100% เพื่อให้ได้กลิ่นที่หอม รสชาติอร่อยใกล้เคียงกาแฟชงสด ส่งเสริมความยั่งยืนให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอีกด้วย
• Craft Cocoa Village รวมคราฟต์โกโก้จากทั่วไทย มาครบทุกรูปแบบตั้งแต่ Bean to Bar – Drink – Snack ชิมเมนูโกโก้ฝีมือแชมป์ปี 2021-2022-2023 มาครบ แบบจัดเต็มทั้งวงการคราฟต์โกโก้ไทย อาทิ Plearn Chocolate, Infinite Cacao, After Choc, Chocoholic.thai, 2P Craft Chocolate, DARQ, Choc-a-dii, TARMCHOCOLATE, Kokolatier เป็นต้น
• ร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าแข่งขันชงกาแฟระดับประเทศ
o วันที่ 5 ต.ค. 66 รายการ “Es-Yen Slowbar Championship”
o วันที่ 6-7 ต.ค. 66 รายการ “Thailand Coffee Brewer League 2023” รอบไฟนอล โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้า AIS และ AIS Fibre แลก 50 คะแนน รับส่วนลด 50 บาท (1 หมายเลข ต่อ 4 สิทธิ์ ตลอดรายการ จำกัด 10,000 สิทธิ์ ตลอดรายการ) และสมาชิก The1 แลก 1 คะแนน รับส่วนลด 50 บาท (จำกัด 600 สิทธิ์ และ 1 สิทธิ์ ต่อ 1 ใบเสร็จ ต่อ 1 หมายเลขสมาชิก The 1 ตลอดแคมเปญ) และแลก 500 คะแนน รับส่วนลด 50 บาท (จำกัด 20,000 สิทธิ์ และ 1 สิทธิ์ ต่อ ใบเสร็จ ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ต่อ 1 หมายเลขสมาชิก The 1) ผู้ที่ลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้า 2,000 ท่านแรก ผ่าน Central Life X Application ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 66 – 3 ต.ค. 66 รับฟรี ของที่ระลึกสุดพิเศษ (คลิก https://bit.ly/451YhPk)
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด, ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า รายละเอียด คลิก https://campaign.centralpattana.co.th/ThailandCoffeeHub2023/
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กล่าวทิ้งท้ายว่า “งาน THAILAND COFFEE HUB ประสบความสำเร็จสูงสุด ได้รับการตอบรับอย่างดี ในทุกที่ที่จัดงาน ทั้งจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ไปจนถึงบรรดา coffee lover ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยจัดงานครั้งแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปีที่แล้ว ต่อเนื่องไปยังภาคตะวันออกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา และภาคใต้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ ซึ่งในปีหน้าเซ็นทรัลพัฒนาได้วางกลยุทธ์การจัดงานให้ครอบคลุมทุกหัวเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่อขยายชื่อเสียงของกาแฟไทยไปยังกลุ่ม Quality Tourist รวมทั้งขยายเครือข่ายความสัมพันธ์ไปยังกลุ่มธุรกิจกาแฟจากประเทศต่างๆ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของการผลักดันกาแฟไทยสู่เวทีโลกในอนาคตอันใกล้นี้”