ยกก๊วนขับ Honda BR-V ไปนอนชิลพูลวิลล่าที่ Banyan Thailand @หัวหิน

สวัสดีค่ะทุกคน หลังจากครั้งล่าสุดเราได้พาทุกคนไปปลดปล่อยความมันส์กันที่ สวนน้ำ วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หลายคนก็คงสงสัย ว่าพวกเราพักกันที่ไหนใช่ไหมคะ? วันนี้เราจึงขอเสนอลายแทงสถานที่พักใกล้สวนน้ำ เดินทางสะดวก ในรูปแบบบ้านพักสำหรับครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนที่ยกแก๊งรวมกันมาหลายคนแบบพวกเรา บ้านพักที่มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะแก่การใช้ชีวิต สร้างกิจกรรม และหย่อนกายหย่อนใจในวันหยุดค่ะ และที่นี่ คือBanyan Village Pool Villa

โครงการบันยันไทยแลนด์ ตั้งอยู่ที่ 68/35 หมู่บ้านหัวนา ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77110 บนเนินเขาครอบคลุมพื้นที่  600 ไร่ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของหัวหิน ภายใต้การนำของ กลุ่มบริษัทบันยันไทยแลนด์ (Banyan Thailand Group) ผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ซึ่งภายในโครงการประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ นั่นก็คือ

  1. “บันยัน วิลเลจ” (Banyan Village) บ้านพักตากอากาศขนาด 2 ห้องนอน พร้อมสระลากูนขนาดใหญ่ล้อมรอบวิลเลจ จำนวน 35 หลัง
  2. “บันยัน กอล์ฟคลับ หัวหิน” (Banyan Golf Club Hua Hin) สนามกอล์ฟ 18 หลุม ครอบคลุมพื้นที่ 500 ไร่ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551
  3. “บันยัน เรสซิเดนซ์ วิลล่า หัวหิน” (Banyan Residences Villas Hua Hin) ลักซัวรี่วิลล่ามูลค่า 4 พันล้านบาท บนพื้นที่ 94 ไร่ จำนวน 102 ยูนิต โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 11.9-100 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาของ บลู โลตัส หัวหิน (Blue Lotus Hua Hin – กลุ่มนักพัฒนาที่มีชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศ)

นอกจากนี้ ด้านหน้าของโครงการยังมี “บี เวล เมดิคอล เซ็นเตอร์” (Be Well Medical Center) ศูนย์การแพทย์และการดูแลสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ “เฮลท์ตี้เรสซิเดนซ์” ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันและอนาคต

เมื่อรับทราบข้อมูลคร่าวๆ ของ โครงการบันยันไทยแลนด์ กันแล้ว เราก็พร้อมที่จะเริ่มออกเดินทางกันเลยค่ะ !

พวกเราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ในช่วง Long weeked (26 ก.ค. 63) โดยมีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 7 คน ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง “Honda BR-V” ACTIVE SPORT CROSSOVER ซึ่งพวกเราสามารถนั่งได้ครบจำนวนคนอย่างพอดิบพอดีโดยแบ่งที่นั่ง ได้ดังนี้ คนขับ 1 คน เบาะข้างคนขับ 1 คน เบาะกลาง 3 คน และเบาะด้านหลังสุดอีก 2 คนค่ะ

เมื่อเราปักหมุด กรุงเทพฯ – บันยัน หัวหิน ในแอพลิเคชั่น Google Maps จะมีเส้นทางหลักๆ อยู่ 2 เส้นทางค่ะ โดยเส้นทางที่ 1 เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด คือ การขับผ่านถนนพระราม 2 ซึ่งผ่านจังหวัดสมุทรสาคร, จังหวัดสมุทรสงคราม, จังหวัดเพชรบุรี และต่อมาจนถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เนื่องจากเป็นช่วง Long Weeked บวกกับมีการก่อสร้างบนนถนนพระราม 2 และฟ้าฝนที่ไม่เป็นใจในการขับรถทำให้การจราจรแออัดอย่างมาก วันนี้เราจึงต้องตัดสินใจเลือกเดินทางในเส้นทางที่ 2 ซึ่งอ้อมกว่าเล็กน้อย โดยขับมาตามถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดนครปฐมและจังหวัดราชบุรี ซึ่งจะมาบรรจบกับเส้นทางแรกที่จังหวัดเพชรบุรี จนมาถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จุดหมายปลายทางของเราค่ะ

ซ้าย : เส้นทางที่ 1 ขับผ่านถนนพระราม 2 / ขวา : เส้นทางที่ 2 ขับผ่านถนนเพชรเกษม

รถที่เราใช้ในการเดินทางครั้งนี้เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง Honda BR-V สีแดงแพสชั่น (Passion Red Peral) สีสันโดดเด่นสะดุดตา ไม่ว่าจะจอดรถไว้ที่ไหนมองหาปุ๊บ ก็เจอปั๊บ! ดีไซน์แบบสปอร์ตเรียบหรูมีเอกลักษณ์ พร้อมพื้นที่ใช้สอยที่ครบครัน ห้องโดยสารกว้างขวาง กระจกบานใหญ่ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด และเต็มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC 117 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้การประหยัดน้ำมันที่มากขึ้น พร้อมอัตราเร่งดีเยี่ยม ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล รองรับพลังงานทางเลือก E85 โดยมีความจุถังน้ำมัน 48.5 ลิตร โดย Honda BR-V มาพร้อมสโลแกน “ให้ความกล้าพาชีวิตไปให้สุด ในทุกเส้นทางที่คุณกำหนดเอง”

มุมมองด้านข้างของภายนอกตัวรถจะเห็นล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว, ความสูงใต้ท้องรถ 201 มิลลิเมตร, ตกแต่งรอบคันด้วยวัสดุสีโครเมียม, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว, ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟหรี่แบบ LED, ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED, และโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยเครื่องหนังแท้-วัสดุหนังสังเคราะห์สีดำเดินด้ายสีแดงและแถบตกแต่งสีแดงซึ่งเป็นความพิเศษสำหรับรุ่น 7 ที่นั่งเท่านั้น (Honda BR-V มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง โดยในรุ่น 5 ที่นั่ง จะใช้ผ้ากับยูรีเทนแทนการใช้เครื่องหนัง และมีสีดำล้วน) ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับการเชื่อมต่อทุกฟังก์ชัน ด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมลำโพงรอบคันจำนวน 6 ตัว รองรับการเชื่อมต่อ Smart Phone ผ่าน Bluetooth มีช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง, ช่องเชื่อมต่อ HDMI, และช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับใครที่ต้องการเปิดเพลงผ่าน Joox, Spotify สามารถนำสายชาร์จด้านที่มีหัวแบบ USB เสียบต่อในช่องเชื่อมได้เลยค่ะ

โดยระหว่างทางก็มีฝนตกเป็นระยะๆ ซึ่งทำให้พื้นถนนมีความลื่นจนอาจทำให้รถเกิดการไถลตัว เราจึงต้องชะลอความเร็วในการขับขี่ให้ช้าลงเพื่อความปลอดภัย โดยรถรุ่นนี้มีตัวช่วยสำคัญที่สามารถคลายความกังวลและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเรามากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA (Vehical Stability Assist) ที่จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน ให้เรารู้สึกมั่นใจขณะขับขี่ ทั้งการขับในวันที่ถนนลื่น และการขับหลบสิ่งกีดขวางในวันปกติค่ะ

หลังจาก 3 ชั่วโมงโดยประมาณ พวกเราก็กำลังจะเข้าเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กันแล้วค่ะ แม้ต้องผ่านฝนตกและการจราจรชะลอตัวเป็นช่วงๆ ตลอดทางที่มา แต่พวกเราก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะพอเข้าเขตจังหวัดเพชรบุรีจนถึงปลายทาง ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่ง แจ่มใส เสมือนต้อนรับการมาเยือนของพวกเราเลยค่ะ

ใกล้ถึงแล้วๆ อีกไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น !

และเราก็มาถึงแล้วค่ะ โครงการบันยันไทยแลนด์ จากถนนใหญ่โครงการจะอยู่ทางด้านขวามือของถนน มีที่กลับรถอยู่ด้านหน้าของโครงการพอดีเลยค่ะ โดยเมื่อขับรถเข้ามาจะเจอลานจอดรถและอาคารต้อนรับหลังนี้อยู่ทางด้านซ้ายมือ เราสามารถทำการเช็คอินเข้าพักได้ที่นี่เลยนะคะ

“บันยัน วิลเลจ” (Banyan Village)

สำหรับในปัจจุบัน Banyan Village Pool Villa เปิดให้เข้าพักในรูปแบบการเช่าระยะยาวเท่านั้น โดยเป็นการเช่ารายสัปดาห์และรายเดือนค่ะ (ก่อนหน้านี้เป็นรีสอร์ทเต็มรูปแบบ แต่ปิดให้บริการแล้วในปัจจุบัน) โดยทุกคนสามารถมั่นใจในความปลอดภัยทั้งด้านสุขภาพและสุขอนามัยตลอดเวลาที่เข้าพักใน Banyan Village แห่งนี้ ที่ได้รับ ใบรับรองโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (Amazing Thailand Safety and Health Administration: (SHA))

บริเวณด้านหน้าของโครงการจะเป็นส่วนของ “บันยัน วิลเลจ” (Banyan Village) และถัดเข้าไปจนถึงตีนเขาขนาดใหญ่ที่เป็นวิวอยู่ด้านหลังนี้ คือส่วนของ “บันยัน เรสซิเดนซ์ วิลล่า หัวหิน” (Banyan Residences Villas Hua Hin) ค่ะ

หลังจากทำการเช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้รับพวงกุญแจพร้อมคีย์การ์ดค่ะ จังหวะนี้เราก็สตาร์ทรถขับผ่านป้อมยามเข้ามาในโครงการได้เลย โดยจะผ่านทางได้เฉพาะรถที่แจ้งหมายเลขทะเบียนตอนเช็คอินเท่านั้น ภายในโครงการมีลักษณะเป็นทางไต่ระดับขึ้นไปจนถึงตีนเขา โดยส่วนของ บันยัน วิลเลจ จะยังไม่สูงชันมากนักค่ะ และสำหรับใครที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางโครงการก็มีรถกอล์ฟคอยให้บริการนะคะ

ภายในส่วนของ บันยัน วิลเลจ ก็ตรงตามชื่อเลยค่ะ หมู่บ้านบันยัน เป็นที่พักที่หน้าตาเหมือนกันหมดทุกหลัง มีหลายซอยยาวต่อเนื่องกันไป โดยวันนี้เราจะพักกันที่บ้านหัวมุม 2 หลังแรกด้านซ้ายมือของซอยนี้กันค่ะ

หลังนี้ๆ

จอดรถเทียบท่าเรียบร้อยแล้ว เตรียมขนของเข้าที่พักกันค่ะ

จ๊ะเอ๋! 5555

Honda BR-V รุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มีความแตกต่างกันในเรื่องของพื้นที่บรรจุสัมภาระด้านหลัง โดยในรุ่น 5 ที่นั่ง จะมีพื้นที่มากกว่า เพราะตัดเบาะแถวที่ 3 ออกไป ส่วนในรุ่น 7 ที่นั่ง ถ้าต้องการใช้พื้นที่สำหรับขนสัมภาระเพียงอย่างเดียว ก็สามารถพับตลบเบาะแถวที่ 3 ไปด้านหน้าแบบ 2 จังหวะ โดยแยกเบาะด้านซ้ายและขวาแบบ 50:50 เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้ค่ะ (เบาะแถวที่ 2 ทั้งในรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง สามารถพับตลบจังหวะเดียว โดยพับแยกเบาะด้านซ้ายและขวาแบบ 60:40 ได้ค่ะ)

สำหรับพวกเรากับ Honda BR-V 7 ที่นั่ง ต้องบอกว่าเบาะแถวที่ 3 ไม่ได้นั่งลำบากอย่างที่คิด เพราะสามารถปรับเอนได้ถึง 2 ระดับ ไม่ต้องนั่งหลังตรงให้ปวดเมื่อยตลอดการเดินทาง และยังสามารถขนสัมภาระของพวกเรา 7 คนได้ แม้จะซ้อนกันสูงสักหน่อย เพื่อใช้พื้นที่ในแนวตั้งให้คุ้มค่าที่สุด

พวกเราได้พักกันที่บ้านหมายเลข 2032 และ 2033 ค่ะ โดยบ้านแต่ละหลังพักได้ 4 คน และสามารถเสริมเตียงได้ 1-2 เตียงค่ะ พวกเรามากัน 7 คน จึงเช็คอินบ้านพัก 2 หลังค่ะ

บันยัน วิลเลจ พูลวิลล่า (Banyan Village Pool Villa) เป็นบ้านพักขนาด 120 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ทำอาหารครบครัน มีระเบียงส่วนตัวและสนามหญ้ากลางแจ้งที่ล้อมรอบด้วยสระลากูนขนาดใหญ่ที่มีจากุชชี่ส่วนตัวริมขอบสระติดกับระเบียงห้อง บรรยากาศร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาชนิด มาพร้อมอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในทุกๆ พื้นที่ นอกจากนั้น ยังมีบริการแม่บ้านทำความสะอาด และบริการซักรีดที่สามารถเรียกใช้เพิ่มเติมได้ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ภายในวิลเลจถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน โดย 2 โซนแรกจะเป็นพูลวิลล่าติดสระลากูนขนาดใหญ่ที่เราเข้าพักกันในวันนี้ และโซนสุดท้ายจะเป็นพูลวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ซึ่งมีที่จอดรถสำหรับ 1 คัน โดยทุกๆ โซนมีราคาค่าเข้าพักที่เท่ากัน แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหนเลยค่ะ ซึ่งค่าเข้าพักยังไม่รวมค่าน้ำและค่าไฟนะคะ

สัมผัสแรกเมื่อเข้ามาภายในบ้าน เราจะพบกับความกว้างขวางปลอดโปร่งของเพดานสูงที่มีการเล่นระดับอย่างพอเหมาะ โดยใจกลางของบ้านเป็นบริเวณห้องนั่งเล่นที่โดดเด่นด้วยชุดโซฟาสีส้มสด ซึ่งเชื่อมต่อกับบริเวณรับประทานอาหารที่ถูกตกแต่งด้วยศิลปะแบบไทยร่วมสมัย ในโทนสีอบอุ่น พร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มที่มีสีเดียวกับบานประตูคู่ขนาดใหญ่ของห้องนอนทั้ง 2 ห้อง โดยทางด้านขวาเป็นห้อง Double Bed พร้อมห้องน้ำที่สามารถออกไปยังโซนอาบน้ำกลางแจ้งริมสระลากูนได้ ส่วนด้านซ้ายจะเป็นห้องแบบ Twin Bed ค่ะ เป็นการออกแบบที่ตอบโจทย์รองรับการมาเที่ยวแบบครอบครัวเป็นหลัก เพื่อแบ่งเป็นห้องของห้องคุณพ่อคุณแม่ และห้องของลูกๆ โดยบ้านหลังนี้มีแอร์ครอบคลุมทั่วทุกบริเวณไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนกันเลยนะคะ

ขอต้อนรับสู่ห้อง Double Bed ค่ะ

ผู้ร่วมทริปหน้าเดิมเพิ่มเติมคือน่ารัก จากด้านซ้าย เกว-กวาง-นิ้ง-อีฟ-ไหม และตากล้องผู้อยู่หลังเลนส์ ปิงปอง กับคุณแม่ปัทผู้สนับสนุนในทริปนี้ค่ะ

เพิ่มบรรยากาศด้วยการปิดม่านพร้อมเปิดโคมไฟที่กระจายแสงสีส้ม ช่วยสร้างบรรยากาศที่แตกต่างไปอีกรูปแบบหนึ่ง

บ้านพักหลังนี้เรียกได้ว่า ถูกจัดให้เหมือนสถานที่รวบรวมผลงานทางศิลปะ ซึ่งถูกตกแต่งด้วยชิ้นงานรูปแบบไทยร่วมสมัยที่สวยงาม ประดับอยู่รอบๆ โซนห้องนั่งเล่น โดยเน้นไปที่สีทองเป็นหลัก

มาต่อกันที่ห้อง Twin Bed ทางด้านซ้าย ซึ่งมีน้องช้างเท่ๆ มาคอยต้อนรับอยู่

สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าต้องเตรียมข้าวของเครื่องใช้อะไรมาบ้างนะคะ ภายในบ้านพักมีบริการผ้าเช็ดตัวให้คนละ 2 ผืน เราสามารถใช้ 1 ผืนเพื่อเช็ดตัวตอนไปเล่นน้ำที่สระ และอีกผืนเพื่อเปลี่ยนใช้เมื่อผืนแรกเปียกได้เลยค่ะ ไม่นับรวมผ้าขนหนูผืนเล็กสำหรับเช็ดหน้าอีกคนละผืนนะคะ โดยในห้องน้ำจะมีสบู่ก้อนสำหรับล้างมือ สบู่เหลวสำหรับอาบน้ำและแชมพูขวดจิ๋วที่เพียวพอต่อการใช้งานในระยะสั้นค่ะ

ภายในห้องครัวมีตู้เย็นขนาดกลางที่เราสามารถซื้ออาหารและวัตถุดิบจากข้างนอกมาตุน หรือเตรียมทำอาหารภายในครัวที่นี่ได้ค่ะ โดยในครัวมีทั้งเตาแก๊ส เครื่องปิ้งขนมปังและเตาไมโครเวฟ รวมไปถึงอุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหาร ซึ่งทำจากเซรามิกที่สามารถเข้าเตาไมโครเวฟได้เลย ทั้งจาน ชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำ และชุดแก้วกาแฟ อีกอย่างละ 4 ชุด

เดินชมภายในบ้านกันมาจนทั่วแล้ว คราวนี้เรามาสำรวจบริเวณด้านหลังของบ้านกันค่ะ

เมื่อเปิดประตูด้านหลังออกมายังระเบียงส่วนตัว เราจะพบกับสระลากูนขนาดใหญ่ไฮไลท์สุดสวยของบันยัน วิลเลจ ที่ทอดยาวผ่านบ้านทุกหลัง ซึ่งแต่ละหลังจะมีจากุชชี่ส่วนตัวที่เว้ามาจากขอบสระ เราสามารถนั่งชิลจิบเครื่องดื่มให้กระแสน้ำได้นวดเท้า นวดตัวภายใต้ร่มขนาดใหญ่ที่คอยบดบังแสงแดดให้กับเรา โดยสวิตซ์เปิดจากุชชี่จะอยู่ทางด้านซ้ายของระเบียงเมื่อหันหน้าเข้าสระลากูนค่ะ

ที่นี่เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากบริเวณถนนแล้ว ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเจอต้นไม้ทั้งต้นเล็กและต้นใหญ่ ถูกปลูกประดับอยู่ทั่วไปหมด

และแน่นอนว่ามาพักบ้านพักแบบพูลวิลล่ากันขนาดนี้ ถ้าเราไม่ลงเล่นน้ำเลยก็คงเหมือนมาไม่ถึง เพราะฉะนั้น ลุยค่ะ!

ปิงปอง (ตากล้อง) : ปัดน้ำขึ้นแบบไม่ให้บังหน้าหน่อย !

❤❤❤❤❤ 🙂

สำหรับในมื้อเช้า ซึ่งถูกรวมอยู่กับค่าที่พักเรียบร้อยแล้ว เราจะออกมารับประทานอาหารกันที่ CORAL RESTAURANT & BAR อาคารที่ตั้งอยู่ระหว่าง Lobby เช็คอิน และ Be Well Medical Center ทางด้านหน้าของโครงการ โดยมีทั้งโซน indoor และ outdoor ให้เลือกนั่งค่ะ

รูปแบบของอาหารเช้าที่นี่จะเป็นบุพเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ค่อนไปทางชาติตะวันตก เนื่องจากผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่าชาวไทย โดยในปัจจุบันไลน์อาหารมีไม่มากนักจากสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา(สถานการณ์ covid-19) ทำให้ต้องปรับลดชนิดของอาหารลง แต่ก็ยังมีให้เลือกเพียงพอ ที่จะยืนครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ว่าจะกินอะไรดีนะ แล้วจะกินอันนั้นต่อไหวไหม ? 5555

ถ้าจะให้เราแนะนำก็ต้องบอกว่า ครัวซองต์ที่นี่อร่อย! เราพึ่งมาค้นพบช่วงที่เราอิ่มจากอาหารชนิดอื่นแล้ว เลยกินไปได้แค่ชิ้นเดียว พอมาคิดดูก็รู้สึกว่าไม่น่าเลย น่าจะเจอตั้งแต่แรก จะได้กินอีกสักชิ้นสองชิ้น นอกจากนี้ก็ยังมีเบคอนกรุบกรอบและอาหารจานไข่จากพนักงานครัวร้อนที่หอมฟุ้ง เตะจมูกไปทั่วห้องอาหาร

มีใครเห็นน้องผีเสื้อกับน้องหัวใจไหมคะ ? :’3 (มองที่ผลไม้สิ น้องผีเสื้อสับปะรด & หัวใจแตงโม)

อย่างที่เราได้เกริ่นไปตอนต้นว่า โครงการบันยัน ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ นอกจาก บันยัน วิลเลจ ที่พวกเราได้เข้าพักกันแล้ว ก็ยังมีอีก 2 ส่วนสำคัญ และในเมื่อพวกเรามาอยู่กันที่นี่ แน่นอนว่าต้องขอไปสำรวจอีก 2 ส่วนภายในโครงการด้วยนะคะ 🙂

“บันยัน กอล์ฟคลับ หัวหิน” (Banyan Golf Club Hua Hin)

“บันยัน กอล์ฟคลับ หัวหิน” (Banyan Golf Club Hua Hin) เป็นสนามกอล์ฟระดับแชมเปี้ยนชิพ และคลับเฮาส์ที่ได้รับรางวัลทั้งในระดับประเทศและระดับโลกมากกว่า 65 รางวัล ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดที่ต้องการมอบความเป็นที่สุดในทุกๆ ด้านให้กับผู้ใช้บริการสถานที่ซึ่งวันนี้ทุกคนจะได้สัมผัสกับเรื่องราวที่น่าหลงใหล ของสนามกอล์ฟที่ได้ชื่อว่าเป็น “Best Golf Destination” ของประเทศไทย มาสำรวจไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

ในส่วนของ บันยัน กอล์ฟคลับ จะตั้งอยู่ห่างออกไปจากบันยัน วิลเลจประมาณ 20 นาทีค่ะ โดยมีรถตู้รับส่งจาก Lobby ไปยังสนามกอล์ฟ หรือใครอยากจะขับรถไปเองก็ได้เช่นกันค่ะ ปักหมุดตามแผนที่นี้ได้เลย !

เมื่อเรามาถึงบริเวณที่จอดรถของกอล์ฟคลับ เราจะพบกับศาลาหลังนี้ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการวางถุงกอล์ฟและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้พนักงานมาขนเข้าไปภายในสนามให้กับนักกอล์ฟทุกคนค่ะ

หันมาอีกด้านหนึ่งก็จะพบกับอาคารกระจกทรงไทยที่โดดเด่น ที่นี่คือ “โปร ช็อป” ร้านจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟระดับคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำ และแบรนด์ของบันยันกอล์ฟ มีพร้อมตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย แว่นกันแดด ไปจนถึงลูกกอล์ฟและไม้กอล์ฟรุ่นล่าสุด ทั้งสำหรับสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็ก โดยเป็นสถานที่แรกที่เราจะพบก่อนเข้าไปภายในคลับเฮ้าส์ค่ะ

บันยัน กอล์ฟคลับ ได้รับรางวัลสนามกอล์ฟและคลับเฮ้าส์ที่ “ดีที่สุด” ใน 3 อันดับต้น จากนิตยสาร Asian Golf Monthly ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน นอกจากนี้ ยังติดอันดับ 1000 สนามกอล์ฟที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจัดโดยโรเล็กซ์เมื่อปี พ.ศ. 2554 และในระดับ Asia Pacific กับ 3 รางวัลที่เป็นที่สุด Best Golf Club Experience in Asia Pacific, Best Maintained Golf Course in Asia Pacific, และ Best Food and Beverage Experience in Asia Pacific

เยี่ยมชม โปร ช็อป กันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ไปต่อกันทางด้านขวาของร้านเลยค่ะ ศาลา Starter ที่ซึ่งรถกอล์ฟจะมารับทุกคนเพื่อเข้าไปภายในสนามกอล์ฟนะคะ

คลับเฮ้าส์แห่งนี้ได้มีการออกแบบให้คงความงามของธรรมชาติดั่งเดิมไว้ โดยก้อนหินขนาดใหญ่ 2 ก้อนที่มีอยู่ก่อนการก่อสร้างคลับเฮ้าส์ ไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปไหน แต่บันยันได้สร้างคลับเฮ้าส์โอบล้อมรอบก้อนหินแทน เพื่อผสานความงามให้ลงตัวกับสถานที่แห่งนี้

สำหรับใครที่ไม่ต้องการไปสนามกอล์ฟในทันที สามารถแวะใช้บริการ facilities ภายในคลับเฮ้าส์กันก่อนได้นะคะ ซึ่งประกอบด้วยห้องเปลี่ยนชุดแยกฝั่งชายหญิงสุดหรูหรา ห้องพักคลับสวีทพิเศษ Mulligan’s Pub และ ร้านอาหาร Terrace ซึ่งล้วนแต่ให้บริการในระดับ 5 ดาว

ตั้งแต่ก้าวแรกที่พวกเราเดินเข้ามา ทุกคนก็คงสังเกตเห็นสถาปัตยกรรมสไตล์ไทยร่วมสมัย ที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ โดยสามารถสังเกตได้จากหลังคาทรงจั่วแบบไทยในสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นรูปแบบการตกแต่งคลับเฮ้าส์ที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และจากความสวยงามของที่นี่ ทำให้ บันยัน กอล์ฟคลับ ถูก Repesent ว่าเป็นรูปแบบคลับเฮ้าส์ของประเทศไทยค่ะ

ภายในคลับเฮ้าส์มีห้องอาหารอยู่ 2 ห้องด้วยกัน ได้แก่ Mulligan’s Pub และ ร้านอาหาร Terrace

Mulligan’s Pub เป็นอาคารทรงไทยโดดเด่นที่รอบล้อมทุกด้านด้วยพื้นที่สีเขียว เป็นสถานที่สำหรับกลุ่มเพื่อน เพื่อมาดับกระหายหลังออกรอบกันมาตลอดทั้งวัน มีทั้งบริเวณที่เป็น outdoor และเคาน์เตอร์บาร์แบบ indoor โดยเน้นไปที่การเสริฟเครื่องดื่มจากหลากหลายประเทศ รวมไปถึงของทานเล่นแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ภายในร้านยังมีการจัดแสดงรายละเอียดของผู้เล่นที่ทำ “โฮล อิน วัน” เอาไว้ด้วย โดยไฮไลท์เด่นของที่นี่ คือ “ปาร์ตี้บาร์บีคิวในคืนพระจันทร์เต็มดวง” ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษประจำเดือน

วิวที่สุดปลายทางเดินของคลับเฮ้าส์ซึ่งเชื่อมกับทางเข้าของ Mulligan’s Pub เป็น Signature way สำหรับการถ่ายรูปของที่นี่ โดยเมื่อมองออกไป จะสามารถมองเห็นแท่นทีออฟหลุมแรก และกรีนที่เก้าของสนาม โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาตะนาวศรีในประเทศพม่า แน่นอนว่าเราสามารถนั่งชิลจิบเครื่องดื่มจาก Mulligan’s Pub พร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามด้วยความกว้าง 180 องศา โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินที่สวยอย่างมหัศจรรย์ !

โดยรอบของที่ดินสำหรับสร้างโครงการบันยันแห่งนี้ ประกอบไปด้วยต้นโพธิ์ และต้นไทรจำนวนมาก ซึ่งชื่อ Banyan ได้มาจากชื่อสปีชี่ส์ Ficus Benjamina ของต้นไทรนั่นเอง

บรรยากาศดี มุมถ่ายรูปเพียบ

ต้องขอบคุณทางลาดเอียง ที่ทำให้พวกเราสูงเท่ากัน

อีกด้านหนึ่งของคลับเฮ้าส์เป็นบริเวณของ ห้องอาหาร Terrace ห้องอาหารสไตล์ outdoor พร้อมที่นั่งริมระเบียงต่างระดับ สามารถนั่งชิลดูนักกอล์ฟกลุ่มอื่นๆ ไปจนถึงดินเนอร์สุดหรูใต้แสงอาทิตย์อัสดง โดยสามารถมองเห็นวิวกว้าง 270 องศาในช่วง 9 หลุมหลังของสนามกอล์ฟ ภายใต้ฉากของเทือกเขาตะนาวศรี โดยบริการมื้ออาหารตลอดทั้งวัน มีทั้งอาหารไทย อาหารเอเชีย และอาหารนานาชาติ รวมทั้งห้องเก็บไวน์สุดพิเศษที่สามารถเดินเข้าไปเลือกไวน์ชั้นเลิศที่คัดสรรมาแล้วด้วยตัวเอง

สนามกอล์ฟที่บันยัน กอล์ฟคลับ ติดอันดับ 1 ใน 5 สนามกอล์ฟที่ดีที่สุดของประเทศไทย เป็นสนามมาตรฐานขนาด 18 หลุม บนพื้นที่ 500 ไร่ ระยะรวม 7,361 หลา 72 พาร์ ออกแบบโดย คุณโอ๊บ พีรพล นะมาตร์ จากบริษัทกอล์ฟ อีสท์ สถาปนิกสนามกอล์ฟชื่อดังของประเทศไทย โดยหลุมที่เด่นที่สุดของบันยันมีอยู่ 2 หลุม คือ หลุมที่ 10 พาร์ 4 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 30 หลุมที่สวยที่สุดในเอเชีย ซึ่งเป็นหลุมแรกที่สร้างแต่เสร็จเป็นหลุมสุดท้าย เนื่องจากความยากในการปั้นเนินดิน ด้านหน้ามีลักษณะเป็น Downhill ด้านหลังเป็น Uphill ด้านซ้ายมีบังเกอร์ทราย และด้านขวามีต้นไม้ขนาดใหญ่ เป็นหลุมที่ตีได้ยากพอสมควร และอีกหลุมหนึ่งคือหลุม 15 พาร์ 3 เป็นหลุม Signature hole ของที่นี่ เล่นได้ง่ายที่สุดจากทั้งหมด ไฮไลท์คือเมื่อยืนอยู่บนแท่นทีออฟจะสามารถเห็นเกาะเต่า เกาะสิงโต และวิวทะเล ซึ่งสวยงามมาก กระซิบมาว่าสวยกว่าบาหลีอีกค่ะ โดย High Season ของที่นี่จะเป็นช่วงเดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม

การสร้างสนามกอล์ฟจะเหมือนกับปีกของผีเสื้อ คือคลับเฮ้าส์อยู่ตรงกลางระหว่าง 9 หลุมแรกและ 9 หลุมหลัง เสมือนแกนกลางลำตัวและปีกของผีเสื้อทั้งสองข้าง เมื่อเล่นครึ่งแรกจบต้องกลับมาพักที่คลับเฮ้าส์ก่อนสตาร์ทต่อครึ่งหลังเสมอ โดยรถกอล์ฟมีการติด GPS แบบ Real time ทำให้ส่วนกลางสามารถรู้ได้ว่าผู้เล่นอยู่ที่ส่วนไหนของสนามแล้ว และผู้เล่นก็สามารถเช็คกับแคดดี้ได้ว่าระยะห่างจนกว่าจะถึงลูกกอล์ฟหรือสนามต่อไปเป็นระยะทางเท่าใด

สนามกอล์ฟที่นี่เป็นสนามกอล์ฟแบบ Rest chemical และกำลังจะเป็น Non chemical ในเวลา 5-6 ปีข้างหน้า โดยความพิเศษอย่างหนึ่งที่นักกอล์ฟจะต้องชอบคือ ที่นี่สามารถเริ่มตีกอล์ฟได้ตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพราะไม่ต้องรอสารเคมีซึมเข้าไปในชั้นดินเหมือนสนามกอล์ฟที่อื่นๆ ซึ่งทำให้เริ่มตีได้ในช่วงหลัง 9 โมงเป็นต้นไป โดยการที่จะได้สนามแบบ Rest chemical เกิดจากการออกแบบจัดโปรแกรม การดูแลเลี้ยงสัตว์สัตว์ใต้ผิวดินให้มีประโยชน์กับสนามตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ซึ่งได้รับการออกแบบโปรแกรมโดย คุณมีนชัย ศรีจรรยา ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสนามกอล์ฟระดับโลก โดยใต้ผิวดินรอบสนาม มีการวางเซ็นเซอร์มากกว่า 800 จุด เพื่อส่งสัญญาณไปยังส่วนกลางทันทีเมื่อเกิดปัญหา เพื่อส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้ามากำกับดูแล

ที่นี่มีการใช้หญ้าอยู่ทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ 1. หญ้าบนแท่นทีออฟ เป็น หญ้าพาสพาลัม ซึ่งให้สีเขียวที่เข้มกว่าปกติ 2. หญ้าบริเวณแฟร์เวย์ คือระยะทางจากแท่นทีออฟไปจนถึงกรีนใช้ หญ้านวลน้อย และ 3. หญ้าบทกรีน ซึ่งเป็นบริเวณที่สำคัญที่สุด เป็น หญ้าทิฟอีเกิ้ล ที่มีลักษณะใบเรียวเล็ก เพื่อให้สามารถควบคุมความเร็วของลูกบนกรีนได้ง่าย โดยมีค่าความฝืดอยู่ที่ 9.4 (ค่าความฝืดโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 9-11 ยิ่งเลขมากยิ่งฝืดน้อย) และสำหรับในช่วงที่ฝนตก ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะสนามที่นี่สามารถแห้งสนิทได้ภายในระยะเวลา 15-30 นาทีเท่านั้น

โดยตำแหน่งของธงปักหลุมกอล์ฟจะมีการเปลี่ยนอาทิตย์ละ 3 ครั้ง เพื่อสร้างความแตกต่างในการตี ให้ผู้เล่นสามารถมาเล่นกอล์ฟได้ตลอดอาทิตย์ และพบความแปลกใหม่เสมอที่บันยัน

นอกจากหญ้าที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี ทรายที่ใช้ในสนามก็มีถึง 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 1. ทรายบริเวณกรีน เป็น ทรายจากจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งดูดซับน้ำได้ดีกว่าปกติ และ 2. ทรายในบังเกอร์ เป็น ทรายจากอำเภอพนมสารคาม (จ. ฉะเชิงเทรา) ซึ่งสามารถดูดลูกกอล์ฟได้มากกว่าทรายชนิดอื่น เปรียบเสมือนกับบทลงโทษในการเล่นที่บังเกอร์ทราย

สำหรับใครที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการตีกอล์ฟ บันยันก็มี คอร์สเรียนกอล์ฟขั้นพื้นฐาน ที่ THE GOLF ACADEMY ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์และนักกอล์ฟมือสมัครเล่นที่ต้องการเพิ่มพูนทักษะให้มากยิ่งขึ้น ฝึกสอนโดย โปร John Wither (British PGA Professional) โปรกอล์ฟจากประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งได้รับรางวัล “Best Professional Golf Coach in Asia Pacific” จาก Asian Golf

“บันยัน เรสซิเดนซ์ วิลล่า หัวหิน” (Banyan Residences Villas Hua Hin)

“บันยัน เรสซิเดนซ์ วิลล่า หัวหิน” (Banyan Residences Villas Hua Hin) ตั้งอยู่ด้านในของโครงการถัดจากบันยัน วิลเลจ มีลักษณะเป็นเนินเขาซึ่งอยู่ห่างจากทะเลเพียง 1.5 กม. จึงทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ ครอบคลุมพื้นที่ 94 ไร่ มีจำนวน 102 ยูนิต โดยเป็นรูปแบบของบ้านสั่งสร้างบนที่ดินที่เลือกได้เอง แบ่งออกเป็น 2 โซนตามขนาดของพื้นที่ สำหรับโซน A เป็นแปลงขนาดใหญ่ ซึ่งมีราคาตารางเมตรละ 9,000 บาท และโซน B เป็นแปลงขนาดเล็ก มีราคาตารางเมตรละ 8,000 บาท ภายในโครงการมีนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมด รวมถึงการวางระบบน้ำใต้ดิน ซึ่งได้ร่วมทุนกับประเทศเนเธอร์แลนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบทางน้ำ โดยตั้งอยู่ห่างจากชายหาด ศูนย์การค้า และ โรงพยาบาลที่มีบริการระดับมาตรฐานสากล เพียง 5 นาที ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างพร้อมขายเหลืออยู่เพียง 40%

“บ้านในฝัน !” คือ Concept ของที่แห่งนี้

บันยัน เรสซิเดนซ์ มีรูปแบบวิลล่าหลักๆ อยู่ 4 แบบ ซึ่งมีความต้องการขนาดของที่ดินที่แตกต่างกันตั้งแต่ 700 ตารางเมตรไปจนถึง 3,200 ตารางเมตร โดยสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบนอกเหนือจาก 4 แบบนี้ได้ตามความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งจะมีทีมงานคอยดูแลในทุกๆ กระบวนการ เพื่อรังสรรค์วิลล่าที่ดีที่สุด ที่ไม่ซ้ำใคร และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตั้งแต่การแก้ไขขั้นพื้นฐาน เช่น การย้ายผนังภายใน หรือ การเปลี่ยนตำแหน่งของห้องครัว ไปจนถึงการแก้ไขเพิ่มเติมที่ครอบคลุมบริเวณกว้าง เช่น การเพิ่มโรงจอดรถ การเพิ่มที่พักสำหรับแม่บ้าน การสร้างฟิตเนสหรือสปาในบ้านของตนเอง ในส่วนของกำแพงบ้าน จะมีแบบเรียบและแบบหินสกัดให้เลือกตามความต้องการ โดยรูปแบบบังคับจะอยู่ที่ภายนอกของตัวบ้าน คือการคุมธีมสีของผนังและหลังคาบ้านให้เป็นรูปแบบเดียวกันตลอดทั้งโครงการ สำหรับระยะเวลาในการสั่งสร้างจนแล้วเสร็จ จะอยู่ระหว่าง 10 – 12 เดือน

บันยันต้องการแน่ใจว่า “ผู้ซื้อจะได้บ้านที่พอดีกับความต้องการอย่างสมบูรณ์”

วิลล่าทั้ง 4 แบบ ของบันยันมีชื่อเป็นภาษาบาหลีเท่ๆ ว่า Bayu, Benua, Kamala, และ Tanah

Bayu มึความหมายว่า “ลม” เป็นแบบวิลล่าชั้นเดียวขนาดเริ่มต้นของโครการ ความต้องการที่ดินสำหรับสร้างอยู่ที่ 612 – 758 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัว พร้อมเฉลียงที่ให้ความเป็นส่วนตัวซึ่งสามารถมองเห็นวิวอบด้าน โดยเน้นไปที่ความสามารถในการใช้ชีวิตกลางแจ้งแบบดินแดนเขตร้อนอย่างเต็มที่

Benua มีความหมายว่า “ทวีป” วิลล่าชั้นเดียวที่ถูกออกแบบให้มีความร่วมสมัยในแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความต้องการที่ดินสำหรับสร้างอยู่ที่ 711- 1,038 ตารางเมตร โดยเป็นพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย 196 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำหลัก 1 ห้องน้ำแขก พื้นที่สำหรับทำตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ฝักบัวอาบน้ำกลางแจ้ง ที่จอดรถ เฉลียงกว้างพร้อมสระว่ายน้ำแบบไร้ขอบ

Kemala มีความหมายว่า “หินวิเศษ” วิลล่าสไตล์อบอุ่นที่เป็นเสมือนตัวแทนของสถานที่พิเศษเพื่อการใช้ชีวิตของคุณ ความต้องการที่ดินสำหรับสร้างอยู่ที่ 792 – 1,838 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำหลัก 1 ห้องน้ำแขก ห้องนั่งเล่นพร้อมห้องโถงกลาง ห้องครัวขนาดใหญ่และห้องรับประทานอาหาร มีลานภายในบ้านพร้อมลานเฉลียงที่กว้างขวาง เป็นวิลล่าที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักอาศัย ทั้งแบบเต็มเวลาหรือการพักผ่อนในวันหยุด

Tanah มีความหมายว่า “ดิน” วิลล่าสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความเป็นส่วนตัว บนพื้นที่ขนาด 1,767 ถึง 3,986 ตารางเมตร เป็นพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย 492 ตารางเมตร ซึ่งเป็นรูปแบบวิลล่าที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ โดยถูกแยกพื้นที่อยู่อาศัยส่วนกลาง และพื้นที่สำหรับห้องนอนด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่ที่แยกตัวนี้ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องเอนกประสงค์ มีห้องโถงขนาดใหญ่พร้อมเฉลียงที่กว้างขวาง ด้วยการออกแบบที่สะดุดตาและพื้นที่ใช้ประโยชน์ภายนอกช่วยให้ ‘วิถีชีวิตตามธรรมชาติ’ เป็นจริง

เต็มอิ่มกันไปเลย! กับเรื่องราวของโครงการบันยัน โครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Dream come true ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะเดินทางกลับกันแล้ว แต่ก่อนจากกันเราก็จะมาสรุปให้ฟังว่า บันยัน วิลเลจเนี่ยเหมาะกับใคร ? แล้วช่วงนี้มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง ? พร้อมสัมภาษณ์คนขับ ว่าคิดยังไงกับรถยนต์คันนี้ ? พร้อมแล้ว ไปต่อช่วงสุดท้ายกันเลยค่ะ

บันยัน วิลเลจ เหมาะกับใคร?
  1. คนที่ Work from home และต้องการที่อยู่ชั่วคราว อยากได้บรรยากาศสบายๆ ในการทำงานและอยู่อาศัย
  2. ครอบครัวที่มาพักร้อนระยะยาว ในช่วงปิดภาคเรียนของลูกๆ
  3. คนที่ต้องการปลีกตัวออกจากสังคมอันวุ่นวายของเมืองใหญ่
  4. ชาวต่างชาติที่ต้องการท่องเที่ยว พักผ่อนระยะยาวภายในประเทศไทย
  5. คู่รักที่ต้องการที่พัก ที่มีความเป็นส่วนตัว
  6. กลุ่มเพื่อนยกก๊วนหนีงานมาใช้วันหยุดประจำปี
  7. นักกอล์ฟที่ต้องการที่พักเมื่อมาเล่นกอล์ฟที่บันยัน กอล์ฟคลับ
  8. ทุกๆ คน ที่สนใจ อยากสัมผัสชีวิตในแบบของบันยัน !
โปรโมชั่น !

โปรโมชั่น “Extended Family Escapes” พูลวิลล่าหรูราคาสุดคุ้ม เพียง 12,500 บาทต่อสัปดาห์ และ 25,000 บาทต่อเดือน เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 032-538-888 อีเมล์ sales@banyanthailand.com  เว็บไซต์ www.banyanthailand.com

จัดของๆ ขนมาได้ขนกลับได้ค่ะ 55555

สัมภาษณ์คนขับ คิดยังไงกับรถยนต์ Honda br-v ?

รู้สึกว่ารถเกาะถนนได้ดี แม้แต่ตอนฝนตกก็ยังเกาะถนน เวลาต้องการแซงก็ทำได้ดังใจ รถสามารถเร่งเครื่องขึ้นรอบได้ค่อนข้างเร็วทำให้มั่นใจในการเดินทาง เหมาะกับการขับออกต่างจังหวัดมากๆ

…คุณแม่ปัท

ครบถ้วนสมบูรณ์ ลากันไปเท่านี้นะครับบบ 🙂 แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับ !

Bye Bye .

Banyan Thailand @หัวหิน
โทรศัพท์ : 032-538-888(บันยัน วิลเลจ), 032-616-200(บันยัน กอล์ฟคลับ), 032-538-888(บันยัน เรสซิเดนซ์)
Website : www.banyanthailand.com
Facebook (บันยัน เรสซิเดนซ์) : https://www.facebook.com/BanyanResidencesVillasHuaHin
Facebook (บันยัน กอล์ฟคลับ) : https://www.facebook.com/BanyanGolfClubHuaHin
Youtube : https://www.youtube.com/user/BanyanOfficial

Honda BR-V
Website : http://www.honda.co.th/brv


บทความ : นลัท โรจน์วัฒนวงศ์
ภาพ : วิริยะ ริยะกุล, นลัท โรจน์วัฒนวงศ์
ผู้ร่วมทริป : ปิงปอง เกว ไหม อีฟ นิ้ง กวาง คุณแม่ปัท
สถานที่ : Banyan Thailand @หัวหิน
ยานพาหนะ : Honda BR-V 7 ที่นั่ง

THANK YOU 🙂