มีอะไรที่ยังไม่เคยทำกันรึเปล่า? อย่างเช่นเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการเก็บองุ่นจากต้นด้วยตัวเอง องุ่นทำไวน์สปาร์คคลิ่งสุดพิเศษที่ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ @เขาใหญ่ เปิดไร่เพื่อเก็บเกี่ยวองุ่นไวน์ขาวสายพันธุ์ Chenin Blanc (เชแนง บล็อง) เป็นครั้งแรก เชิญมาพบกับประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน การเก็บเกี่ยวองุ่นท่ามกลางสายลมและขุนเขาในงาน GranMonte Sparkling Harvest Festival 2020
ก่อนที่เราจะเข้าไปในงานเทศกาลวันนี้ จะขอเล่าถึงไร่องุ่นอย่างย่อๆ ให้ทุกคนได้รู้จักกัน กราน-มอนเต้ วินยาร์ด แอนด์ ไวเนอรี (GranMonte Vineyard and Winery) เป็นไร่องุ่นครบวงจรตั้งแต่ปลูก แปรรูปผลผลิต จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ และยังมีร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน รวมไปถึงรีสอร์ท พร้อมบริการนำเที่ยวเชิงเกษตรภายในไร่ มีขนาด 100 ไร่ ตั้งอยู่ที่ 52 หมู่ 9 ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30320 เป็นธุรกิจครอบครัวที่ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 2004 โดยครอบครัวโลหิตนาวี
ไร่องุ่นไวน์ “กราน-มอนเต้” เป็นที่กล่าวถึง ในฐานะผู้ผลิตไวน์ชั้นนำของประเทศไทย โดยใช้ผลองุ่นที่ปลูกบนผืนไร่ของกราน-มอนเต้เองเท่านั้น จนคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย และมีชื่อเสียงในวงการไวน์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยล่าสุดได้รับรางวัล “Best National Producer – Thailand” หรือ “ผู้ผลิตไวน์ดีเด่นแห่งประเทศไทย” อีกครั้ง จากการแข่งขันไวน์นานาชาติ AWC Vienna 2019 ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นการแข่งขันไวน์ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ทั้งนี้ กราน-มอนเต้ เคยเป็นผู้ผลิตดีเด่นมาแล้วในปี 2015, 2016 และ 2017 โดยปีนี้ได้รับ 2 เหรียญทอง และ 4 เหรียญเงิน จากการแข่งขันเดียวกัน
“กราน-มอนเต้” (Gran-Monte) มาจากภาษาอิตาลี โดยคำว่า Gran แปลว่า ใหญ่ และคำว่า Monte คือ ภูเขา Gran-Monte จึงแปลรวมกันได้ว่า “เขาใหญ่” ซึ่งชื่อนี้ถูกตั้งโดย “คุณมาลินี พีระศรี” ภรรยาของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี อธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากร
เราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวช่วง 10 โมงเช้าของวันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2563 และเดินทางมาถึงไร่ประมาณเที่ยงครึ่ง ด้วยกระเพาะที่พร้อมรับการเติมเต็ม และสถานที่ที่สามารถจะตอบสนองความต้องการของเราในวันนี้ก็คือ ร้านอาหาร VinCotto ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน ที่ตั้งอยู่ภายในไร่องุ่นแห่งนี้ ถึงจะบอกว่าเป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน แต่ก็มีอาหารหลากหลายสัญชาติให้ได้เลือกตามความต้องการของแต่ละคน เคียงคู่ไปกับไวน์ชั้นเยี่ยมและน้ำองุ่นสดสายพันธุ์ซีราส 100% เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 20.00 น. มีทั้งโซน indoor และ outdoor ให้บริการ
พอเรานั่งประจำตำแหน่งขณะรออาหารออกเสิร์ฟนั่น ก็ได้สังเกตเห็นกระปุกที่บรรจุเกล็ดสีสวย ที่เรายังไม่แน่ใจว่าคืออะไร? หลังจากสอบถามก็ได้รู้ว่า นี่คือ “เกลือไวน์” เป็นเกลือจากจังหวัดสมุทรสาครที่ถูกนำมาผสมกับไวน์แดงสายพันธุ์ซีราส จนออกมาเป็นเกลือไวน์สีสวย ที่มีรสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มจนเกินไป เหมาะสำหรับโรยลงบนสลัดหรือสเต็กเพื่อเพิ่มมิติของจานอาหาร
และนี่คือเมนูอาหารของเราในวันนี้ค่ะ จานแรกคือ สลัดกุ้งซอสบัลซามิก กุ้งตัวใหญ่พร้อมผักสดมากๆ โรยด้วยชีสตามด้วยเกลือไวน์อีกเล็กน้อย แล้วจิบน้ำองุ่นสดตาม พูดได้เลยว่าฟินมากค่ะ! และในตอนที่กำลังดื่มด่ำกับความหอมหวานของน้ำองุ่น อาหารจานหลักก็ออกเสิร์ฟ สตูว์ไก่ไวน์แดง ชิ้นใหญ่ สีสวย ทุกอย่างถูกตุ๋นมาอย่างดี แค่เอาส้อมไปสะกิดเนื้อก็หลุดออกมาอย่างง่ายดาย นุ่มละมุนลิ้นมากค่ะ จานนี้ไม่ต้องโรยเกลือไวน์นะคะ เพราะเชฟปรุงมารสชาติเข้มข้น มีความพอดีในตัวอยู่แล้ว และจานสุดท้ายเป็นของหวานโดยให้เลือกระหว่างเครมบรูเล่และพานาคอตต้าองุ่น เราเลือกพานาคอตต้าค่ะ เนื้อพานาคอตต้ากับองุ่นไปด้วยกันได้อย่างดีเลยโดยในมื้อนี้ถูกเสิร์ฟพร้อมไวน์สปาร์คคลิ่งสุดพิเศษ และไวน์สีชมพูสุดสวยที่มีชื่อตามภรรยาของคุณวิสุทธิ์ โลหิตนาวี เจ้าของไร่แห่งนี้ว่า “สกุณาโรเซ่” ซึ่งเป็นไวน์ตัวแรกของคุณนิกกี้-วิสุตา โลหิตนาวี ไวน์เมกเกอร์หญิงคนแรกของเมืองไทย
หลังจากเพลิดเพลินกับมื้ออาหารกลางวันแสนอร่อยเรียบร้อยแล้ว เมื่อออกมาด้านหน้าของร้าน ก็จะพบกับโซนกิจกรรม Workshop ต่างๆ ที่จัดมาให้ร่วมสนุกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ
กิจกรรม Workshop กิจกรรมแรกของเรา กิจกรรมเพ้นท์ลวดลายบนกระถางดินเผาขนาดเล็ก! มีน้องๆ นั่งเพ้นท์กันอยู่หลายคนเลยค่ะ โดยมีพี่เจ้าหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เป็นการเพ้นท์กระถางดินเผาด้วยสีอะคริลิค เพิ่มพูนจินตนาการ สร้างความน่ารักสดใส ตามสไตล์ของตัวเอง ขนาดกระทัดรัดจะตั้งไว้ในสวน ตั้งไว้ในบ้านก็เข้ากันได้ดีทั้งนั้น เป็นกระถางใบเดียวในโลกให้กับต้นไม้จิ๋วหรือกระบองเพชรแสนรัก เรียกได้ว่าเป็น masterpiece by me เลยค่ะ
กิจกรรม Workshop ต่อมาก็คือ กิจกรรมทำลวดลายบนหมวก มีหมวกให้เลือกอยู่หลายทรงเลยค่ะ มาก่อนได้ก่อน หมวกปีกกว้างหมดเร็วมาก 55555 แต่ทุกทรงสวยหมดเลย สำหรับเราได้หมวกทรงที่เรียกว่า Trilby มา เป็นทรงหมวกสุดฮิตที่สามารถใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงค่ะ โดยเมื่อเราได้หมวกมาแล้ว เราก็จะมาเลือกลวดลายที่อยากได้กันค่ะ มีกระดาษลวดลายอยู่หลายแบบพร้อมตัวอย่างผลงานเป็นแนวทางให้ดูอยู่เต็มโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นลายดอกกุหลาบ ลายดอกไม้นานาชนิด ลายต้นกระบองเพชร ลายผีเสื้อ สายรุ้ง ไปจนถึงลายม้ายูนิคอร์น หรือจะผสมหลายๆ ลายก็ทำได้ตามใจชอบเลยค่ะ เมื่อเรามีหมวก มีลายที่ต้องการ พร้อมหาที่นั่งประจำตำแหน่งเป็นของตัวเองได้เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรงเข้ามาแนะนำ เพื่ออธิบายถึงขั้นตอนกรรมวิธีการทำหมวกใบเก๋ของเราใบนี้ และเนื่องจากในงานก็มีชาวต่างชาติจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีเพื่ออธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วค่ะ
ขั้นตอนการทำอย่างแรกคือเราต้องใช้กรรไกรตัดเฉพาะส่วนลายที่ต้องการออกจากกระดาษลวดลายที่เราเลือกมาโดยพยายามอย่าให้มีขอบสีขาวนะคะ จากนั้นจึงทำการแซะกระดาษออกมาเพียงชั้นเดียวจาก 3 ชั้น (กระดาษลวดลายมีความหนา 3 ชั้นนะคะ) ก่อนที่จะติดลงบนหมวกโดยทากาวที่ได้จัดเตรียมไว้ หลังจากเราแปะติดลวดลายทั้งหมดที่เราต้องการแล้ว จึงใช้น้ำยาเคลือบเงาชโลมให้ทั่วหมวกของเราค่ะ ทั้งหมดนี้อาจจะกินเวลามากหน่อย โดยเฉพาะช่วงตัดลวดลายที่อาศัยความปราณีตและสมาธิ บวกกับจิตใจที่ควบคุมมือไม่ให้สั่นค่ะ ซึ่งผลงานที่ออกมาเป็นความภาคภูมิใจที่เกิดจากความพยายาม ความสนุกสนาน และเป็นประสบการณ์ให้เล่าต่อได้อย่างแน่นอนค่ะ ใกล้แล้วค่ะ อีกนิดเดียวหมวกของเราก็จะเสร็จแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำไปเป่าด้วยไดร์เป่าผมให้หมวกแห้งทั่วทั้งใบ เพียงเท่านี้เราก็จะได้หมวกสุดเก๋ที่เป็นของเราในแบบของเราไว้ใส่เดินชิคๆ ทั่วงานกันแล้วค่ะ
มาถึงกิจกรรมที่ 3 ค่ะ เป็น กิจกรรมการชม Pairing Wine+Chocolate โดยผู้เชี่ยวชาญจะมาอธิบายเกี่ยวกับชนิดและวิธีการทาน จับคู่ระหว่างไวน์ไทยและช็อคโกแลตของไทยค่ะ มีให้ลองชิมด้วยนะ ถ้าพูดภาษาเราๆ ก็คือลาภปากมากค่ะ 55555
และเมื่ออยู่ในเทศกาลของไร่ไวน์ขนาดนี้จะขาดบูธเครื่องดื่มไปไม่ได้แน่นอนค่ะ มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย เราไม่แน่ใจในเรื่องของชื่อและส่วนผสม แต่มีทั้งค็อกเทล (เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์) และม็อกเทล (เครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์) ค่ะ มีหลายสี สีสวยมาก 55555 เหมาะกับการจิบ ชิมวนไป รวมถึงเป็นพร็อพถ่ายรูปชั้นเลิศเลยทีเดียว และแน่นอนว่ามาพร้อมกับรสชาติที่อร่อยไม่เป็นสองรองใคร ส่วนตัวชอบแก้วสีส้มนี้มากๆ เพราะดื่มง่าย มีความหวานปนขมนิดๆ ให้ความสดชื่นและมีกลิ่นหอม ส่วนสำหรับเด็กๆ ก็มีน้ำองุ่นให้บริการค่ะ
ภายในงานได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้มาร่วมกิจกรรมกันอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นคือ คุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา หรือ อาหนิง ของบรรดาแฟนคลับ ส่วนตัวแล้วเราก็จะบอกว่าอาหนิงหล่อมากๆ คิวต่อแถวถ่ายรูปก็ยาวมากๆเช่นกันค่ะ อาหนิงสุภาพและเป็นกันเอง สามารถขโมยหัวใจทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ภายในงานไปหมดเลยค่ะ 55555
Highlight เด็ดอีกอย่างหนึ่งของเทศกาลครั้งนี้ก็คือแก๊งรถโมเดิร์น-คลาสสิกสุดเท่ หลากโมเดลที่ถูกขนมาจัดแสดงให้ได้ยลโฉมอย่างใกล้ชิด พร้อมถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งนำโดย คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ผู้จัดงาน “มหกรรมยานยนต์” หรือ “Motor Expo” เป็นผู้ชวนเหล่าสมาชิกให้นำรถมาจัดแสดง
บรรดารถ Food Truck กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับดินเนอร์ปาร์ตี้คืนนี้ค่ะ
หลังจากลุยกิจกรรมกันมาหลายอย่างแล้ว เราจะมูฟมาโซนหน้าเวทีเพื่อจับจองโต๊ะกันตามต้องการค่ะ ใครชอบโซนใกล้เวที โซนใกล้เครื่องดื่ม หรือโซนใกล้ Food Truck ก็เลือกกันตามอัธยาศัยเลยค่ะ ฟังเพลงชิลๆ พร้อมรับสายลมเย็นๆ ให้ได้พักผ่อนสักนิดระหว่างรอกิจกรรมการแข่งขันเก็บองุ่นประจำปีค่ะ โดยกิจกรรมจะมีช่วง 16.30 น. นะคะ พอใกล้เวลาเริ่มกิจกรรมก็จะมีการอธิบายกฎกติกาบนเวทีค่ะ
นี่คือหมวกทรง Trilby ที่เราได้มาค่ะ
องุ่นไวน์ขาวสายพันธุ์ Chenin Blanc (เชแนง บล็อง) สำหรับนำไปผลิตไวน์สปาร์คคลิ่ง
บรรยากาศของผู้ร่วมรับชมการแข่งขัน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นกิจกรรมประจำปีที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเลยค่ะ โดยถ้าได้มาสักปีแล้ว ปีต่อไปเราก็จะไม่อยากพลาดแน่ๆค่ะ
บรรยากาศของผู้เข้าแข่งขัน ถ่ายภาพที่ระลึกเพื่อเตรียมตัวแข่งในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า วินาทีจริงๆนะคะ ถ่ายเสร็จจับกรรไกรเตรียมตัดเลย 5555 โดยผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะได้รับผ้ากันเปื้อนสวยๆ สกรีนว่า GranMonte Sparkling Harvest Festival 2020 คนละผืนไปเป็นที่ระลึก เป็นชุดเกราะออกรบของนักตัดองุ่นสมัครเล่นอย่างเราในวันนี้ค่ะ
โดยองุ่นจะมีตั้งแต่แถว A-J ค่ะ แข่งกัน 6 รอบด้วยกัน รอบแรกก็คือ A1-J1 ไปจนถึงรอบสุดท้าย A6-J6 ค่ะ ซึ่งแต่ละทีมจะประกอบด้วยผู้ใหญ่ 2 คน หรือ ผู้ใหญ่ 1 เด็ก 3 คน กติกาการแข่งขัน เพียงตัดพวงองุ่นและทำน้ำหนักให้ได้มากที่สุด ภายในระยะเวลา 5 นาที ทีมที่ทำได้น้ำหนักมากที่สุด 3 อันดับแรกจะเป็นผู้ได้รับรางวัลรวม 60,000 บาท (อันดับที่ 1 30,000 บาท อันดับที่ 2 20,000 บาท และอันดับที่ 3 10,000 บาท)
ในแต่ละทีมจะได้กรรไกรเพียง 1 เล่ม หมายความว่าจะต้องมีคนตัดพวงองุ่น 1 คน และคนอื่นๆทำหน้าที่ช่วยหาขั้วของพวงองุ่น เก็บองุ่นลงตะกร้า รวมทั้งแบกตะกร้าที่มีองุ่นตามไปเรื่อยๆ เป็นการแข่งขันที่ต้องอาศัยความสามัคคีรวมมือรวมใจและความเร็วเป็นอย่างมาก 5 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก ตอนที่ตัดก็คิดว่าเร็วแล้วแต่ยังไม่เร็วพอ เพราะนอกจากความเร็วที่ต้องการแล้ว เรายังต้องทะนุถนอมองุ่นเป็นอย่างดีอีกด้วย เวลาตัดขั้วองุ่นห้ามตัดโดนใบหรือกิ่งอื่นๆเด็ดขาด เพราะจะมีผลกับการเจริญเติบโตของต้นองุ่นในภายหลัง เราจึงต้องแหวกองุ่นพวงใหญ่ที่หนาแน่นไปด้วยผลจำนวนมากจนบังขั้วองุ่นมิดไปหมด และสอดกรรไกรไปตัดอย่างระมัดระวัง เราต้องตัดพวงองุ่นทุกพวงเรียงกันไปเรื่อยๆโดยไม่เว้นช่วงเหมือนกับวิธีการที่มืออาชีพตัดพวงองุ่นตัดกัน ทีมท้ายๆก็จะต้องวิ่งไกลหน่อย เพราะทีมก่อนหน้าตัดพวงองุ่นไล่มาจากหัวแถวเรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่าเราได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันด้วยค่ะ เราเป็นทีม E5 หลังจากติดตามร่วมเชียร์ ร่วมสังเกตหลายๆทีมก่อนหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอมาแข่งเองก็ได้รู้ว่ามันไม่ง่ายเลยค่ะ แต่สนุกมากๆ ถ้ามีโอกาสปีถัดไปก็จะมาแข่งใหม่แน่นอนค่ะ โดยในครั้งนี้เราเก็บได้รวมทั้งหมด 13.1 กิโลกรัมค่ะ ไวน์ 1 ถังใช้องุ่นประมาณ 15 กิโลกรัม เราก็เกือบเก็บได้ไวน์ 1 ถังอยู่นะ ภูมิใจมากค่ะ 555555
คุณวิสุทธิ์ โลหิตนาวี เจ้าของไร่องุ่นกราน-มอนเต้ (ซ้าย) และ คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ผู้จัดงาน Motor Expo (ขวา)
จบการแข่งขันเก็บเกี่ยวองุ่นไปพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้า และเข้าสู่ดินเนอร์ปาร์ตี้แสนโรแมนติกท่ามกลางท้องฟ้าสีเข้มประดับดวงไฟสีอบอุ่น นั่งบนกองฟางสุดชิค เคล้าเสียงเพลงรักโรแมนติก กับอากาศที่ค่อยๆเย็นขึ้นเรื่อยๆ จิบไวน์เลิศรสหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาว ไวน์แดง ม็อกเทล ค็อกเทล ซึ่งแต่ละอย่างก็มีหลายสูตรให้เลือก ไปจนถึงเครื่องดื่มพื้นฐานอย่างน้ำอัดลม โซดาและน้ำเปล่า พร้อมด้วย Food Truck ร้านเด็ด ที่มีอาหารหลากหลายสัญชาติ กินได้ไม่อั้น จะเวียนกินกี่รอบก็ได้ เป็นดินเนอร์ปาร์ตี้ที่ให้อารมณแบบงานเฟสติวัลที่ต่างประเทศ เพียงแต่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่นิดเดียวเท่านั้นเองค่ะ เพลิดเพลินไปกับความสุข ความประทับใจ ความรื่นเริงยาวต่อเนื่องกันไปได้ตลอดคืนเลย
นี่คืออาหารทั้งหมดที่เรากินไป แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่มีในงานนี้นะคะ ข้าวโพดปิ้งราดซอสครีมโรยด้วยชีส ตอนแรกก็รู้สึกแปลกๆอยู่นิดๆ เพราะว่าข้าวโพดปิ้งธรรมดาก็อร่อยแล้ว แต่เมื่อได้ลองกินก็เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ไปอีกแบบค่ะ มีความหอม มัน แล้วก็รสเค็มของชีสผสมกับข้าวโพดปิ้งสีเหลืองสดใส บีบมะนาวตามอีกหน่อย ตัดรสกันได้อย่างดีเลยค่ะ ตามมาด้วยขาหมูเยอรมันที่ขโมยจิตใจเราไปด้วยหนังกรอบเสียงดังกรุบ บอกได้คำเดียวว่า “ดีมาก” อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ หรือจะโรตีแกงเขียวหวานเนื้อขาลายตุ๋น ชิ้นใหญ่ หนานุ่มมากกกก เหมือนไม่เคยรู้จักคำว่าเหนียวมาก่อน ฟินสุดๆ ปกติเราไม่ค่อยทานเนื้อแต่ดูน่าทานจนต้องลอง และเพิ่มเป็นจานที่ 2 สุดท้ายความประทับใจของเราจบลงด้วยไอศกรีมรสน้ำองุ่น และไวน์ขาวที่ทำพิเศษเพื่อปาร์ตี้ในครั้งนี้เท่านั้น ไม่สามารถหาทานที่ไหนได้อีก รสชาติเข้มข้น ลงตัว เข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นรสของน้ำองุ่นที่ให้ความมันๆนมๆ บวกกับรสไวน์ขาวหนักแน่น ที่เราคิดว่าเข้มว่าดื่มเป็นน้ำอีกค่ะ ถ้าใครทานเยอะก็มีโอกาสเดินเซแน่ๆเลย และนี่เป็นเพียงอาหารบางส่วนที่เราอยากเอามาเล่าให้ฟังเท่านั้น จานอื่นๆก็รสชาติเด็ดไม่แพ้ใครนะคะเราพามากินฟินบรรยากาศขนาดนี้แล้ว GranMonte Sparkling Harvest Festival 2020 ก็คงทำให้ใครๆหลงรักได้อย่างไม่ยากเย็นเลยใช่ไหมล่ะคะ
ในขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินไปกับจานอาหารแสนอร่อย บนเวทีก็ได้มีการประกาศผลรางวัลผู้ชนะการแข่งขันเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปี 2020 ในปีนี้มีผู้สมัครเข้าแข่งขันรวม 58 ทีม ซึ่งผู้ชนะเลิศ ได้แก่ ดร.กันธิชา ฉิมศิริ และ เอมี่ อรรถเศรษฐากร ที่เก็บองุ่นได้ถึง 22.4 กิโลกรัม ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาทค่ะ และต่อด้วยกิจกรรมการแข่งขันดื่มไวน์แดง จาก mini porron ที่มาพร้อมกับปากแก้วเล็กๆ น่ารัก แต่ไม่ง่ายเลย แอบถามผู้เข้าแข่งขันบอกว่าเคล็ดลับคือการยกแก้วให้สูงที่สุดเพื่อให้ไวน์ไหลอย่างรวดเร็ว แต่เราก็ต้องกลืนให้เร็วด้วยนะคะ โดยมีผู้เข้าแข่งขันทั้งคุณสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีเกินจำนวนที่เปิดรับไปอีกค่ะ การแข่งขันจะแบ่งผู้เข้าแข่งขันออกเป็นรอบละ 5 คน ผู้ที่สามารถดื่มไวน์แดงได้หมดก่อนในแต่ละรอบจะเป็นผู้ชนะค่ะ
อยู่ดินเนอร์ปาร์ตี้จนเวลาล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว เราก็กลับที่พักไม่ใกล้ไม่ไกลจากไร่ค่ะ
ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เช้านี้ เราขอแนะนำให้มาแวะร้าน Montino Shop ร้านขายของฝากเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้าย เลยทางเข้าไร่มานิดเดียวค่ะ ส่วนทางด้านขวาจะมีแปลงต้นองุ่นที่สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปได้ด้วยนะคะ ช่วงที่เราไปองุ่นกำลังออกผลสีม่วงลูกใหญ่พอดีเลยค่ะ ซึ่งภายในร้านของฝากจะมีผลิตภัณฑ์ทุกอย่างของไร่กราน-มอนเต้ วางจำหน่ายอยู่ ไม่ว่าจะเป็นไวน์ต่างๆ น้ำองุ่น องุ่นสด ลูกเกด แยมหลากหลายรสชาติ ไม่ได้มีแค่องุ่นอย่างเดียวนะ น้ำสลัดก็มีหลายสูตร และเกลือไวน์ที่กล่าวไปตอนต้น ไปจนถึงเครื่องสำอาง สบู่ ครีมบำรุงผิวจากส่วนผสมทางธรรมชาติก็มีจำหน่ายค่ะ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการแนะนำผลิตภัณฑ์และตอบคำถามต่างๆให้กับผู้สนใจ ส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและเครื่องดื่มก็มีให้ลองชิมด้วยนะคะ เราจะได้เลือกสิ่งที่เราชอบจริงๆกลับไปค่ะ ส่วนตัวเราได้น้ำองุ่นกลับมา 1 โหลเพราะเป็นสิ่งที่เราชอบที่สุดของที่นี่ค่ะ แล้วก็ลูกเกด องุ่นสด(เป็นองุ่นไร้เมล็ดนะ) และแยมองุ่นค่ะ ส่วนของตัวแยมจะไม่เหนียวข้นนะคะออกไปทางเหลวๆมากกว่า รสชาติเมื่อทานกับขนมปังออกมาเป็นขนมปังองุ่นเลย 55555
อีกด้านหนึ่งของร้านก็มีคาเฟ่เล็กๆด้วยนะ มีเบเกอรี่จำหน่ายด้วย
และสำหรับใครที่พลาดงาน “GranMonte Sparkling Harvest Festival 2020” ไม่ต้องเสียใจ เพราะ “ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้” ยังสามารถเที่ยวได้ในทุกฤดูกาลตลอดปี โดยเฉพาะตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ เป็นเทศกาล Harvest Month ซึ่งทางไร่จะเปิดให้ทุกคนที่จะมาได้มีประสบการณ์เก็บเกี่ยวองุ่นด้วยตนเอง และพักผ่อนที่ GranMonte Wine Cottage ท่ามกลางไร่องุ่นไวน์ ล้อมรอบด้วยขุนเขาใหญ่กับสายลมเย็นสบาย
สามารถจองที่พัก และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- E-mail : reservation@granmonte.com
- โทร.092-806-7755
- www.granmonte.com
- facebook.com/granmonte
หลังจากได้เที่ยวอย่างเต็มที่ พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม และซื้อของที่ระลึกเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราคงต้องขอลาไปก่อน โดยขอฝากความคิดเห็นในมุมมองของคุณแม่ทิ้งท้ายไว้นะคะ
ได้มีโอกาสไปงานที่ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ เมื่อไม่นานมานี้ ที่นั่นทุกต้นปีมีจัดกิจกรรมเก็บองุ่นด้วยละ ตอนแรกก็พยายามนึกว่าจะเก็บลำบากไหม แต่พอได้ร่วมกิจกรรมเก็บองุ่นด้วยแล้ว สนุกจริงๆ ท้าทายความสามารถว่าจะเก็บได้เยอะแค่ไหน ปีนี้เราเก็บได้ถึง 13.1 กิโลกรัม ว้าว! ไม่นึกว่าจะทำได้ ร่วมแรงร่วมใจกับลูกสาว สามัคคีคือพลังค่ะ ถึงไม่ชนะ แต่ก็ภูมิใจค่ะ ตอนเย็นมีงานเลี้ยง อาหารอร่อยทุกอย่างบรรยากาศดีมากมาก ได้ชิมรสชาติน้ำองุ่น ไวน์แดง กินได้แบบไม่อั้นเลยค่ะ ปีหน้าตั้งใจต้องไปแก้ตัว เก็บองุ่นให้มากขึ้น / คุณแม่ของฉัน
แล้วเจอกันใหม่ปี 2021 นะ :’) Bye Bye กราน-มอนเต้
#GranMonteVineyardandWinery #GranMonteSparklingHarvest2020 #GranMonte