“วานา นาวา” ยกทัพโปรเด็ด ต้อนรับเครื่องเล่นใหม่ “VR Slide” พร้อมมาตรการเข้มรับมือ Covid-19

สวัสดีค่ะทุกคน ตอนนี้ก็ก้าวเข้าสู่เดือนสิงหาคมกันแล้ว หลังจากคลายล็อกดาวน์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 มาสักพักใหญ่ สถานการณ์การท่องเที่ยวที่ซบเซาลงไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็เริ่มมีสีสันสดใสกันมากขึ้น ผู้คนสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศกันได้อย่างอิสระ มีโปรโมชั่นอัดแน่นจากสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศออกมาเรียกเสียงตอบรับจากทุกคนกันอยู่อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งในวันนี้ Wannateller จะขอพาทุกคน ไปสร้างรอยยิ้ม สร้างเสียงหัวเราะ เพิ่มสีสันแปลกใหม่ให้กับชีวิต เราขอนำเสนอ VANA NAVA Water Jungle @หัวหิน!

VANA NAVA Water Jungle หรือ สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล ตั้งอยู่ที่ 129/99 หมู่บ้านหนองแก ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110 บนเนื้อที่ 20 ไร่ ซึ่งถูกออกแบบพื้นที่โดยรอบให้มีความกลมกลืนกับต้นไม้น้อยใหญ่จำนวนมากที่ปลูกแทรกอยู่รอบๆ สวนน้ำ ภายใต้แนวคิด “วอเตอร์ จังเกิ้ล สวนน้ำที่ผสมผสานกับป่าเมืองร้อน” โดยหัวหินถูกจัดอันดับให้ติดอันดับที่ 2 ใน 10 อันดับ Wish-list จุดหมายปลายทางยอดนิยมในประเทศของคนไทยหลังได้รับการปลดล็อก (จากผลสำรวจ booking.com) และนอกจากสวนน้ำวานา นาวา จะมีเครื่องเล่นมากมายกว่า 18 ชนิด ยังประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการแบบมืออาชีพ อาทิ ห้องจัดประชุม บริการนวดไทย ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องเล่นเกม ครบครันอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ เรียกได้ว่า VANA NAVA Water Jungle เป็น Destination ที่เปรียบเสมือนโอเอซิสแห่งความสนุกของทุกๆ คนก็ว่าได้

มาตรการด้านความปลอดภัย

แต่ในช่วงนี้หลายคนอาจยังกังวลเกี่ยวกับการออกมาท่องเที่ยวในที่ที่มีผู้คนมากมาย ว่ามีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ ทางสวนน้ำวานา นาวา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จัดมาตรการคุมเข้มคัดกรองลูกค้าทุกคนก่อนเข้าใช้บริการภายในสวนน้ำ โดยยึดตามข้อแนะนำระดับโลกจากสมาคมสวนสนุกนานาชาติ (IAAPA : The International Association of Amusement Parks) และล้อไปตามโมเดล 5 แกนหลัก “SSHBT” ของกลุ่มบริษัท พราว ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการบริหารสวนน้ำฯ โดยปรับไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อยกระดับความปลอดภัย พร้อมจัดตั้ง Clean Team ในการเดินตรวจดูแลความสะอาดตลอดวัน โดยสวนน้ำวานา นาวา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสวนน้ำแห่งแรกที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration มีชื่อเต็มในภาษาไทยว่า โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว

สำหรับโมเดล 5 แกนหลัก “SSHBT” ประกอบไปด้วย

1. Screening การคัดกรองอย่างเข้มงวด ตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าใช้บริการและพนักงาน โดยพยาบาลวิชาชีพ
2. Social Distancing เว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยจุดแข็งของสวนน้ำที่กว้างถึง 20 ไร่ และจำกัดปริมาณลูกค้า 600 คนต่อรอบ รวมถึงจำกัดจำนวนคนในการลงสระว่ายน้ำแต่ละโซน, ยืดระยะเวลาการปล่อยตัวลูกค้าจากเครื่องเล่น เพื่อลดความแออัดภายในสระน้ำ, พนักงานยืนระยะห่างจากลูกค้า 1.5 เมตร, การจัดโต๊ะเก้าอี้ที่ห่างกันมากขึ้น
3. Health Monitoring การติดตามเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ โดยใช้เทคโนโลยี RFID เข้ามาช่วยในการบันทึกข้อมูลเข้า-ออก สวนน้ำ ทำให้สามารถทราบจำนวนคนที่ใช้บริการในสวนน้ำแบบ real time
4. Be Hygienic คุมเข้มการดูแลรักษาความสะอาด โดยทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมทุก 1 ชั่วโมง, ทำความสะอาดระบบกรองน้ำทุกวันหลังสวนน้ำปิดทำการ, ตรวจสอบค่าคลอรีนทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อคงค่ามาตรฐานตามองค์การอนามัยโลกในระดับที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้, ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยระบบไอน้ำในพื้นที่ให้บริการเครื่องเล่น ล็อกเกอร์ ห้องอาบน้ำและห้องน้ำ พื้นที่ให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ทุกสัปดาห์, ทำความสะอาดห่วงยางและอุปกรณ์ชูชีพอย่างสม่ำเสมอ และจัดให้มีเจ้าหน้าที่เช็ดอุปกรณ์จับ (holder) ก่อนให้ลูกค้าจับ, มีการอบฆ่าเชื้อผ้าเช็ดตัว, อบฆ่าเชื้อภาชนะและอุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหารด้วยรังสี UV และบรรจุช้อน ส้อม ใส่ถุงพลาสติกที่ผ่านการฆ่าเชื้อเป็นชุดส่วนตัว ฯลฯ
5. Touchless Experience ลดการสัมผัส มีการนำดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาร่วมใช้ในการบริการ สามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Mobile Banking, TrueWallet เป็นต้น

ซึ่งมาตรการ 5 ข้อดังกล่าว แบ่งย่อยออกเป็นอีก 70 ข้อ เพื่อความรัดกุมแบบ 360 องศา พร้อมประสานงานกับโรงพยาบาลหัวหินในการส่งตัวกรณีพบผู้น่าสงสัย และการเตรียมสถานที่โดยปรับเวลาการเปิดให้บริการเป็น 11:00-16:00 น. ซึ่งเป็นช่วงระหว่างวันที่มีแสงแดดธรรมชาติในพื้นที่โล่งและมีอัตราการหมุนเวียนของอากาศ (ACH) มากกว่า 10 เท่าต่อชั่วโมง, งดการใช้เครื่องปรับอากาศในพื้นที่ให้บริการ, การจัดฝึกอบรมและให้ความรู้พนักงาน และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอในเรื่องการเฝ้าระวัง การป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 การเว้นระยะห่างทางสังคม และการให้บริการแบบ New Normal

ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว ไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวสวนน้ำที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยยอดเยี่ยมและเครื่องเล่นสุดมหัศจรรย์ไปด้วยกันได้เลยค่ะ!

พวกเราเดินทางมาถึงสวนน้ำวานา นาวา ในช่วงบ่ายๆ แสงแดดกำลังสาดส่องไปทุกอณูของพื้นที่ จนต้องเดินเอามือไขว้หลังหลบไปตามเงาของหลังคาอาคารที่มีการตกแต่งที่อิงมาจากธรรมชาติ

เข้ามาถึงจุดแรกก็สแกน QR code ไทยชนะ กันก่อนนะคะ โดยในช่วงที่เรายังคงเผชิญกับสถานการณ์ covid-19 เราจะสามารถเข้าสวนน้ำได้จากประตูด้านหน้าเท่านั้น

ต่อคิวโดยเว้นระยะห่างตามที่กำหนดด้วยมาร์คกิ้งบนพื้น เพื่อวัดไข้ผ่านกล้องเซ็นเซอร์ที่มีความละเอียดแม่นยำกว่าการตรวจผ่านเครื่องยิงอุณหภูมิอินฟราเรดทั่วไป โดยมีคุณพยาบาลคอยกำกับดูแล

ใช้เท้าเหยียบเพื่อให้เจลแอลกอฮอล์หยดออกมาสำหรับล้างมือให้สะอาดเรียบร้อยโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสที่ขวด จากนั้นเราก็จะถึงจุดตรวจสัมภาระ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการคัดกรองผู้เข้าใช้บริการค่ะ

เมื่อเราผ่านขั้นตอนการตรวจความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว จะถึงเคาน์เตอร์ซื้อบัตรค่ะ มีราคาสำหรับผู้ใหญ่และเด็กรวมไปถึงแพ็คเกจหลากหลายสำหรับครอบครัว โดยบัตรเข้าสวนน้ำคือสายรัดข้อมือสีน้ำเงินนะคะ และสายรัดข้อมือสีเหลืองสำหรับขึ้นเครื่องเล่น VR Slide ค่ะ ***ที่ท้ายบทความเรามีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเดือนสิงหาคม 2563 เท่านั้น มาฝากกันด้วยนะคะ

เทคโนโลยี RFID ในสายรัดข้อมือสีน้ำเงินซึ่งเป็นบัตรผ่านประตูของสวนน้ำ ปกติได้มีการใช้งานอยู่แล้วในการใช้เข้า-ออกสวนน้ำ รวมถึงใช้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในสวนน้ำ แต่ในช่วงสถานการณ์นี้ได้มีการเพิ่มฟังก์ชัน Tracking เข้าไปด้วย โดยเริ่มจากบันทึกข้อมูลลูกค้าตั้งแต่เข้าสวนน้ำ-ออกสวนน้ำ และติดตามว่าลูกค้าไปใช้บริการเครื่องเล่นใดในสวนน้ำบ้าง เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้

แผนที่ของ VANA NAVA Water Jungle @หัวหิน โดยทางเข้าจะเริ่มตั้งแต่ด้านล่างสุดของแผนที่

จากเคาน์เตอร์ซื้อบัตร เมื่อเราหันขวาก็จะพบกับช้อปวานา นาวา ที่จำหน่ายทั้งขนม ของที่ระลึกและชุดว่ายน้ำ โดยสามารถจ่ายเงินผ่านสายรัดข้อมือที่เติมเงินไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อเราช้อปปิ้งกันเสร็จเรียบร้อย เดินต่อจนสุดทางก็จะพบกับทางเข้าสวนน้ำกันค่ะ ใช้สายรัดข้อมือสแกนเข้าสวนน้ำได้เลย! (ส่วนใครจะซื้อของที่ระลึกตอนกลับก็ได้นะคะ เพราะทางนี้เป็นทั้งทางเข้าและทางออกจากสวนน้ำค่ะ)

เดินต่อเข้ามาภายใน จุดแรกที่เราจะแวะกันก็คือบริเวณของห้องล็อคเกอร์กันค่ะ โดยราคาของตู้ล็อคเกอร์จะอยู่ที่ 200 บาท และอีก 100 บาทสำหรับผ้าเช็ดตัวค่ะ

ขั้นตอนการใช้งานตู้ล็อคเกอร์

1. กดเลือก ” จองตู้ ”
2. แตะสายรัดข้อมือที่แถบสแกน
3. หน้าจอจะขึ้นให้เลือกตู้ล็อคเกอร์ที่ว่างนะคะ สามารถกดเลือกได้เลยค่ะ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการจองตู้เรียบร้อย
4. กลับมาเลือก ” เปิดตู้ ” ที่หน้าจออีกครั้ง
5. แตะสายรัดข้อมือที่แถบสแกน
6. หน้าจอจะขึ้นเลขตู้ล็อคเกอร์ที่เราจองเอาไว้ และจะทำการปลดล็อคตู้ให้เราอัตโนมัติ
7. เปิดฝาตู้ได้เลยค่ะ! สำหรับครั้งต่อไปเมื่อต้องการเปิดตู้อีกครั้ง ก็สามารถเริ่มทำตามตั้งแต่ข้อที่ 4-7 ได้เลยค่ะ

ตรงข้ามห้องล็อคเกอร์จะเป็นร้านอาหารนานาชาติ “The Grove” มีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และ a la carte ค่ะ โดยบุฟเฟ่ต์สำหรับผู้ใหญ่ราคา 380 บาท และเด็กราคา 270 บาท สามารถทานได้ต้ังแต่ 11.00-16.00 น. คือทานแล้วไปเล่นน้ำแล้วกลับมาทานกี่รอบก็ได้ โดยเราจะได้สายรัดข้อมือสีฟ้าสำหรับการทานบุฟเฟ่ต์ได้ตลอดทั้งวันค่ะ

ปล. พนักงานสวมสายรัดข้อมือก็จะใส่ถุงมือตอนสวมสายรัดข้อมือให้เราด้วยค่ะ ก่อนตักอาหารเราก็ต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์และสวมถุงมือพลาสติกที่วางไว้ก่อนเริ่มตักอาหารด้วยนะคะ ตักใหม่ก็เปลี่ยนถุงมือใหม่ทุกครั้ง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเราและผู้ใช้บริการคนอื่นค่ะ

เราจะขอแนะนำผู้ร่วมทริปในครั้งนี้กันก่อนนะคะ เริ่มจากซ้ายมือ เกว – ไหม – อีฟ – นิ้ง และ กวาง เองค่ะ

โดยหลังจากการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา สวนน้ำวานา นาวา ก็ได้เปิดตัวเครื่องเล่นชนิดใหม่มาช่วยเสริมทัพความยิ่งใหญ่ “ที่สุดสวนน้ำระดับโลก” ที่เน้นรวบรวมทุกความเป็นที่สุดและที่แรกของสวนน้ำในประเทศไทยมาไว้ด้วยกัน ครั้งนี้กับเครื่องเล่นชนิดใหม่ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Asia วานา นาวา ได้เปิดตัว “VR Slide” เครื่องเล่นสไลเดอร์ที่ผสานเทคโนโลยีจำลองภาพเสมือนจริงจากสหรัฐอเมริกา แบบ 360 องศา ผ่านแว่น VR โดยใช้ห่วงยางเป็นพาหนะนำทุกคนเข้าสู่การเดินทางสุดล้ำ กับเรื่องราว 3 เรื่อง 3 รูปแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจ

สไลเดอร์ที่เหมือนท่อสีเหลืองนี่แหละค่ะ คือสถานที่ที่เราจะมาผจญภัยไปในดินแดนมหัศจรรย์ VR Slide ในครั้งนี้กัน

1. เส้นทางการผจญภัยแรกกับ Snow World มุ่งสู่อาณาจักรอันหนาวเหน็บ เพื่อพิชิตเส้นทางลึกลับสุดท้าทาย
2. เส้นทางการผจญภัยที่ 2 Galaxy Voyage หากใครมีความฝันอยากเดินทางไปในอวกาศต้องเลือกเส้นทางนี้ ท่องไปจนสุดขอบจักรวาลพร้อมปะทะสิ่งมีชีวิตลึกลับ เมื่อจักรวาลนี้ไม่ได้มีแค่พวกเรา! (พี่การ์ดเตือนว่า ออกไปนอกโลกครั้งแรกจะมึนหัวได้ง่ายนะคะ)
3. และเส้นทางการเดินทางที่ 3 เหมาะกับทุกเพศทุกวัย Mysterious Jungle การผจญภัยไปกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในป่าพิศวงสุดตระการตา เราแนะนำว่าเริ่มต้นที่เส้นทางนี้ก่อนขยับไปเส้นทางอื่นเพื่อปรับตัวให้ชินกับการมองผ่านแว่น VR ค่ะ เส้นทางนี้ไม่ทำให้เกิดอาการมึนหัวจากการเล่น สำหรับการเล่นครั้งแรกเลยค่ะ

ขั้นแรกเราก็ต้องมาต่อคิวเพื่อรับห่วงยางสีม่วงสำหรับขึ้น VR Slide กันค่ะ นี่เป็นช่วงการรอที่นานที่สุดแล้วค่ะ โดยเฉพาะเมื่อเรามาเที่ยวในวันหยุดกันนะคะ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ เราก็อยากแนะนำให้ทุกคนมาเที่ยวช่วงวันธรรมดาที่ไม่ใช่เทศกาลวันหยุดยาวติดต่อกันแบบนี้ค่ะ (เรามากันช่วงวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคมค่ะ วันก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงรัชกาลที่ 10 หนึ่งวันค่ะ)

ได้ห่วงยางแล้วก็ช่วยกันยกขึ้นไปที่จุดปล่อยตัวสไลเดอร์กันค่ะ

ไหม – อีฟ / ปิงปอง(ผู้ร่วมทริปชายหนึ่งเดียวของเราในทริปนี้) – เกว

พร้อมลุยกันเต็มที่ ต่อคิวอย่างอดทน ที่เห็นพวกเรายิ้มๆ ก็มีหวาดๆ เครื่องเล่น VR กันนิดหน่อยค่ะ 5555

ในที่สุด ก็ถึงคิวพวกเราแล้วค่ะ! นำห่วงยางมาวางบนรางสไลด์ได้เลย แล้วพี่ไลฟ์การ์ดจะสอบถามเกี่ยวกับเส้นทางการผจญภัยที่เราต้องการไปในครั้งนี้ โดย 2 คนที่เล่นด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องเลือกเส้นทางเดียวกันนะคะ ตอนที่เล่น เราก็จะกรี๊ดกันแบบคนละเรื่องเดียวกัน 555555 เมื่อเลือกเส้นทางแล้ว พี่ไลฟ์การ์ดจะเช็ทโปรแกรมแว่น vr ซึ่งจะกินเวลาสักครู่หนึ่งสำหรับการเตรียมตัวทั้งหมดก่อนสไลเดอร์ อีกนิดเดียวค่ะ จะได้สไลด์แล้ว **โดยก่อนที่แว่น vr จะถูกส่งให้เรา ได้ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ทันทีที่คนก่อนหน้าเล่นเสร็จทุกรอบแล้วนะคะ

Ready!

Go!

สำหรับเครื่องเล่น VR Slide ก็คือการดัดแปลงเครื่องเล่นที่มีชื่อว่า “มาสเตอร์บลาสเตอร์” (สไลเดอร์ท่อสีเหลือง) ซึ่งจะพาทุกคนสไลด์ดิ่ง ขึ้นลง ไปด้วยความเร็ว 45 กม./ชม. มาผสานรวมกับการเล่นพร้อมสวมแว่น VR เพื่อสัมผัสกับเทคโนโลยีภาพเสมือนจริงซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้าน VR อย่าง Ballast นั่นเองค่ะ

ภาพรวมของเส้นทางการเล่น VR Slide โดยเริ่มต้นที่จุดปล่อยตัวด้านบนสุด และจบที่รางด้านล่างขวาที่มีร่มสีชมพูค่ะ

ถึงแล้วววว

สัมภาษณ์ความรู้สึกผู้ร่วมทริป หลังได้ทดลองเล่น เครื่องเล่น VR Slide ครั้งแรก!

เกว – เส้นทางที่ 3 Mysterious Jungle : ได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี พี่ไลฟ์การ์ดบอกมีช้างด้วย แต่ไม่เจอช้างเลยสักตัว

ไหม – เส้นทางที่ 2 Galaxy Voyage : เป็นเครื่องเล่นที่แปลกใหม่ดี แต่ตอนเล่นรู้สึกว่าภาพที่เห็นกับทิศทางของสไลเดอร์มันไม่ตรงกัน ทำให้งงๆ เหมือนกันว่าจะโฟกัสตรงไหนดี

อีฟ – เส้นทางที่ 3 Mysterious Jungle : ตื่นเต้นดี เพราะไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของสไลเดอร์แล้ว ไม่ใช่แค่เราที่ไม่รู้ vr ก็ไม่รู้เหมือนกัน สไลเดอร์เข้าโค้งขวาแล้ว vr ยังทางตรงอยู่เลย พอสไลเดอร์ตรง vr เลี้ยวจ้าาา ถามว่างงไหมก็งงอยู่ สนุกแบบงงๆ 5555

นิ้ง – เส้นทางที่ 1 : Snow World : จากคนที่เคยเล่นสไลเดอร์สีเหลืองตอนไม่มี vr มาก่อน รู้สึกว่าสนุกขึ้น เพราะมีอะไรให้มองนอกจากท่อสไลเดอร์สีเหลือง ตอนตัวละครใน vr จะเข้ามา interact กับเรา มันก็ตื่นเต้นดี

กวาง – เส้นทางที่ 3 Mysterious Jungle : มันว้าวนะ จำได้ว่าตอนไม่มี vr คือมีช่วงตื่นเต้นแค่ตอนที่ท่อเปิดโล่ง 2 ช่วง ที่เหลือไม่มีอะไรเลย พอมี vr แล้วมันมีเส้นทางให้ติดตาม ให้อยากรู้ว่าจะไปไหนต่อ กลายเป็นว่า อ้าว จบแล้วเร็วจัง เร็วเกินไป

ปิงปอง – เส้นทางที่ 2 Galaxy Voyage : รู้สึกเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ทั้งตื่นเต้นและเวียนหัวไปพร้อมๆ กัน

หลังจากจบไฮไลท์หลักของเครื่องเล่นใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว เครื่องเล่นอื่นๆ ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน โดยเครื่องเล่นอื่นจะใช้ระยะเวลาต่อคิวรับห่วงยางที่เร็วกว่าค่ะ เพราะลดขั้นตอนการเซ็ทโปรแกรมของแว่น VR ไป ยกห่วงยางวางแล้วสไลด์ไปกันได้เลย โดยจะมีสัญญาณ READY สีเขียวเพื่อเป็นสัญญาณการปล่อยตัวค่ะ

บริเวณจุดปล่อยตัวจะค่อนข้างคนเยอะพอสมควรเพราะเป็นจุดปล่อยตัวของสไลเดอร์ถึง 4 อันด้วยกัน ได้แก่ ซ้ายสุดสีส้ม Inner Tube, สีแดง Superbowl, สีเหลือง VR Slide, และสีเขียว Rattler

ยิ้มสู้ :’)

สไลเดอร์สีส้มนี้ มีชื่อว่า Inner Tube สไลเดอร์ที่จะไหลตีโค้งวนลงสู่พื้นน้ำด้วยความเร็ว 25 กม./ชม. โดยสามารถเล่นได้ครั้งละ 1-2 คน ซึ่งแต่ละคนต้องมีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 122 ซม. น้ำหนักรวมต่ำสุดที่ 136 กิโลกรัม และสูงสุดไม่เกิน 182 กิโลเมตร

Vana Nava Water Jungle @หัวหิน เป็นสวนน้ำแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้หลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามแบบสากล โดยมีเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดกว่า 90 คน ที่ผ่านการรับรองโดยบริษัท เอลลิส แอนด์ แอสโซซิเอท (Ellis & Associates) จากสหรัฐอเมริกา

พี่ใหญ่ไจแอนท์รูปกรวยยักษ์สีเขียวฟ้าลายหมากรุก มีชื่อว่า Abyss ซึ่งเป็นไฮไลท์เด็ดสุดๆ ของสวนน้ำแห่งนี้ เพราะว่านี่คือ สไลเดอร์น้ำที่ได้รับการบันทึกว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก! โดยสามารถเล่นพร้อมกันได้ตั้งแต่ 3-6 คน ด้วยเรือที่จะพาทุกคน ดิ่ง! เหวี่ยง! สู่อุโมงค์ยักษ์ที่ความเร็วกว่า 45 กม./ชม ซึ่งแต่ละคนต้องมีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 137 ซม. และมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 363 กิโลกรัม แอบกระซิบว่าพวกเรา 6 คนหนักรวมกันได้ 363 กิโลกรัม พอดิบพอดีเลยค่ะ 5555

ข้อดีของน้ำหนักที่พอดีนี้คือลิมิตที่ห่วงยางเหวี่ยงได้สนุกมากทีสุด ศูนย์ถ่วงดีมาก ขึ้นสูงมาก ดิ่งแรงมาก กรี้๊ดมันส์มากกกกกก โดยก่อนเล่นพวกเราได้กระจายน้ำหนักให้แต่ละฝั่งใกล้เคียงกัน เป็นการมาร์คตำแหน่งของแต่ละคนในห่วงยางล่วงหน้าด้วย เพราะพวกเรากลัวว่าจะดิ่งไปข้างเดียวตลอดการเล่นค่ะ ทุกคนลองคำนวณกันดูนะคะ

สไลเดอร์สีเหลืองสลับน้ำเงิน มีชื่อว่า “Boomerango” สไลเดอร์ที่ได้ชื่อว่ายาวที่สุดในประเทศไทย สำหรับเล่นพร้อมกัน 6 คน โดยแต่ละคนมีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 122 ซม. และมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 454 กิโลกรัม ด้วยความเร็วก่อนจะเหวี่ยงขึ้นสูงสุดกว่า 20 เมตร และต่อเนื่องด้วยความเร็วกว่า 45 กม./ชม. ในองศาเกือบตั้งฉากกับพื้นก่อนจะดิ่งสู่พื้นน้ำเบื้องล่าง

เล่นสไลเดอร์กันจนเหนื่อยมาลองเดินเล่นตะลุยในดินแดนแห่งน้ำอย่าง “Rainfortress” เครื่องเล่นที่รวมเอาสไลเดอร์ 7 อันเข้าไว้ด้วยกัน ลองมาเล่นสไลเดอร์แบบไม่ใช้ห่วงยาง ลองยิงปืนฉีดน้ำ ทดลองกลไกที่แอบซ่อนอยู่รอบๆ ของดินแดนแห่งนี้ แล้วนั่งรอเวลาให้ระฆังสัญญาณของถังบรรจุน้ำขนาดยักษ์เทลงมาใส่หัวสักที เป็นความรู้สึกที่สดชื่นจนบรรยายไม่ถูก เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ นำความสุขมาสู่พวกเราอย่างไม่ทันตั้งตัว เล่นรอบเดียวไม่เคยพอ ต้องขออีกหลายๆ รอบ โดยมีพี่ไลฟ์การ์ดที่จะคอยเรียกให้เราเตรียมตัวเมื่อใกล้ถึงเวลา ถึงตอนนี้เราก็ยังไม่รู้เหตุผลที่มานั่งรอน้ำเทใส่หัวอยู่แบบนี้ รู้แต่ว่า มันสร้างความทรงจำที่ควรมาลองนั่งดูสักครั้ง แล้วจะเข้าใจได้ด้วยตัวเอง

ก่อนจะจบวันอันแสนสนุก มาผ่อนคลายร่างกายให้ได้กระทบกับคลื่นน้ำในสระขนาดใหญ่ กว่า 1600 ตารางเมตร ที่ “Coconut Beach” สระคลื่นเทียมแห่งเดียวของประเทศไทยที่ใช้ทรายจริงโอบรอบสระน้ำ ซึ่งสามารถสร้างคลื่นน้ำให้สูงได้หลายระดับ ทำให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศสบายๆ ด้วยคลื่นเบาๆ ไปจนถึงสนุกกับคลื่นขนาดยักษ์ที่ทำเอาเราปลิวได้เหมือนกัน

และพวกเราก็ได้พบกับช่วงเวลาการรอคอยอย่างมีหวัง ให้ใครสักคนสละห่วงยางที่มีจำนวนจำกัดจากผลกระทบของสถานการณ์ช่วงนี้ ซึ่งทำให้ต้องลดจำนวนห่วงยางลงเพื่อเพิ่มระยะห่างและลดความแออัดของจำนวนผู้ใช้บริการ เรารอกันอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงในขณะที่กำลังจะถอดใจกลับบ้าน ก็ได้ห่วงยางมา 3 ห่วง พวกเราสลับกันขึ้นไปนั่ง ทดลองเป็นบุคคลที่ควบคุมทิศทางตัวเองไม่ได้ แค่ไหลๆ ไปตามกระแสน้ำ มีเพื่อนๆ ค่อยช่วยกันจับไม่ให้ลอยไปไกล แล้วยังช่วยจูงเราไม่ให้เอาปลายเท้าไปแตะคนอื่นด้วยค่ะ 5555 ถ้าได้ห่วงยางครบทุกคนคงลอยห่างจนจับกันไม่อยู่แน่ๆ

เอ้ายิ้มมมมม !

หลังจากเล่นกันจนเหนื่อยมาทั้งวัน ก่อนจบวันนี้เราก็มีบทสัมภาษณ์ของผู้ร่วมทริปมาฝากกัน

แต่ละคน ชอบเครื่องเล่นเครื่องไหนมากที่สุด ?

เกว : ชอบ Rainfortress เพราะรู้สึกว่าเป็นบริเวณที่เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ชอบฟีลตอนที่ทุกคนมานั่งรวมกัน เพื่อรอตอนถังน้ำตกลงมาตู้มม! และทุกคนก็มีแต่รอยยิ้มมม
ปล.ได้ฟีลเหมือนเล่นสงกรานต์เลย เพราะปีนี้ไม่ได้เล่น

ไหม : ชอบ Abyss ความที่ลักษณะของสไลเดอร์เป็นกรวยๆ ทำให้สไลด์ไปสไลด์กลับหลายรอบ มีจุดพีคเยอะดี ได้กรี้ดหลายรอบ บวกกับนั่งได้เยอะ มีเพื่อนกรี้ดละยิ่งมันส์ รู้สึกคุ้มสุดๆ

อีฟ : ชอบสีเขียว มันชื่อ Abyss ใช่ไหมนะ 55555 ชอบช็อตแรกน้ำหนักพวกเราเต็มเหนี่ยวดี แล้วช็อตสองพอน้ำหนักเยอะมันก็เลยขึ้นสูง กับความพร้อมใจกันกรี๊ดไม่หยุดคือตลกมาก?

นิ้ง : ชอบเครื่องเล่นสีเขียวๆ (Abyss) มันตื่นเต้นมากๆ แล้วยิ่งเล่นกับเพื่อนยิ่งตลกหน้าเพื่อนด้วย

กวาง : ชอบ Abyss มากที่สุด พอเล่นด้วยกันหลายๆ คน แล้วสนุกมาก ทุกคนกรี๊ดแรงมาก กรี๊ดแบบไม่รู้เมื่อไหร่จะหยุด 55555 สไลเดอร์ก็ขึ้นลงอยู่อย่างนั้นไม่หยุดเลย นานจนเราหยุดกรี๊ดมามองหน้าเพื่อนแล้วก็หัวเราะแทน

ปิงปอง : ชอบ Abyss เพราะชอบตอนทุกคนกรี๊ด เป็นประสบการณ์ใหม่เหมือนกัน

สรุปว่า สำหรับทริปนี้ พวกเราขอเทใจให้กับ Abyss สไลเดอร์ยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกก! ด้วยคะแนน 6/7

สำหรับวันนี้ See You Again soon แล้วมาเที่ยวด้วยกันอีกนะทุกคน :’)

– Bye Bye –

ห้ามพลาด!!! โปรโมชั่น ประจำเดือนสิงหาคม 2563

อิ่มอร่อยสนุกครบ ในราคา 1,300 บาท (จากราคาเต็ม 2,180 บาท) ประกอบไปด้วย

✅ บัตรสวนน้ำ ✅ ผ้าเช็ดตัว ✅ ล็อคเกอร์ ✅ VRSlide เล่นได้ไม่จำกัด
✅ บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน ตั้งแต่ เวลา 11.00-16.00 น.

จองเลยที่ ? https://bit.ly/2WFbgWS
หรือ Line @ : https://goo.gl/qkPMoy

จองผ่านออนไลน์วันนี้ – 10 สิงหาคม 2563
เข้าใช้บริการได้ถึง 31 สิงหาคม 2563 เท่านั้น

โปรโมชั่นนี้สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/3hUCIYB
หรือ Line @ : https://goo.gl/qkPMoy

ตั้งแต่วันนี้ – 16 สิงหาคม 2563
และเข้าใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม – 31 สิงหาคม 2563 เท่านั้น

โปรโมชั่นนี้สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/3gkpzrI
หรือ Line @ : https://goo.gl/qkPMoy

ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 16 สิงหาคม 2563 และเข้าใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม – 31 สิงหาคม 2563 เท่านั้น
** โปรโมชั่นนี้สำหรับบัตรผู้ใหญ่ที่มีส่วนสูง 122 ซม. ขึ้นไป

โปรโมชั่นนี้สามารถจองผ่าน https://bit.ly/2YF1vt8
หรือ Line @ : https://goo.gl/qkPMoy

ตั้งแต่วันนี้ – 29 สิงหาคม 2563 และเข้าใช้บริการได้ถึง 31 สิงหาคม 2563 เท่านั้น
** โปรโมชั่นนี้เฉพาะผู้ที่มีความสูงตั้งแต่ 111 cm. – 121 cm. สำหรับบัตรเด็ก และ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่น https://www.facebook.com/VanaNavaHuaHin/photos/pcb.4147625015308824/4147611851976807/?type=3&theater

โทรศัพท์ : 032-909-606
Website : https://www.vananavahuahin.com/th
Line : @vananavahuahin
วันทำการ : ทุกวัน
ช่วงเวลา : วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี 11.00 น. – 16.00 น. / วันศุกร์ – วันอาทิตย์ 11.00 น. – 18.00 น.
***เครื่องเล่นที่ยังไม่เปิดให้บริการ Climbing Wall, Rope Course, Lazy River

---