บำรุงราษฎร์ เปิด “ศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ” ย้ำผู้นำด้านการบริบาลสุขภาพแบบองค์รวม

จากสถานการณ์ระบาดวิทยา องค์การอนามัยโลกได้คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยกระดูกและข้อเพิ่มขึ้นจาก 400 ล้านคนใน พ.ศ. 2551 เป็น 570 ล้านคนใน พ.ศ. 2563 ในขณะที่ผลสำรวจประเทศไทย พบว่ามีผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อในคนไทย พ.ศ. 2563 มากกว่า 6 ล้านคน แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ โรคข้อเสื่อมยังเป็นภาระโรคที่สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น และเป็นโรคเรื้อรังโรคหนึ่งที่เป็นสาเหตุของความพิการ และการสูญเสียความสามารถในการทำหน้าที่ของร่างกาย นำไปสู่ภาระพึ่งพิง ซึ่งเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขระดับโลกรวมทั้งประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยที่มีภาวะเกี่ยวกับข้อที่มีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา อุบัติเหตุ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับข้อต่าง ๆ เหล่านี้ ผู้ป่วยจำเป็นที่จะต้องได้รับตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงการวางแผนการรักษาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ตรงจุดและเหมาะสมตามอาการไม่มากหรือน้อยเกินไป จากแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง รวมถึงจากสถานพยาบาลที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยและผลสัมฤทธิ์ของการรักษา

รศ. นพ.​ ทวีสิน ตันประยูร ​ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการทางการแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า “การเปิด ‘ศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ’ หรือ ‘Sports Medicine and Joint Center’ ในครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำศักยภาพของบำรุงราษฎร์ ในการยกระดับการรักษาพยาบาลสู่ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ Center of Excellence อย่างต่อเนื่อง โดยโรงพยาบาลฯ ได้มีการจัดทัพแพทย์ของศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ โดยการรวบรวมแพทย์ ซึ่งเป็นระดับอาจารย์แพทย์ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับของแพทย์ในสาขาความชำนาญการด้านกระดูกและข้อของประเทศมาร่วมงานกับทางโรงพยาบาลฯ เพื่อมาเสริมศักยภาพปรับทัพแพทย์ของศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ อีกทั้งยังเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระด้านสาธารณสุขของภาครัฐ และเปิดโอกาสให้กับผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย”

นพ. วิชาญ กาญจนถวัลย์ หัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และแพทย์ผู้ชำนาญการศัลยศาสตร์กระดูกและข้อและการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ reinvent หรือพลิกโฉมโมเดลการให้บริบาลทางการแพทย์ในรูปแบบใหม่ขึ้นมาสอดรับกับวิสัยทัศน์องค์กรเรื่องการให้การบริบาลสุขภาพแบบองค์รวม หรือ Holistic Healthcare โดยการนำศาสตร์ทั้งสองแขนงมารวมกัน จะส่งผลดีต่อผู้มาใช้บริการและผู้ป่วย เพราะทำให้เกิดการต่อเนื่องในการรักษา และทำให้การรักษาผู้ป่วยเกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากท่านลองนึกภาพคนไข้ที่อยู่ในวัย active สามารถเข้ามาขอคำแนะนำหรือเข้ารับการรักษาได้ภายในศูนย์เดียวต่อเนื่องไปตลอดช่วงอายุ หรือ ครอบครัวหนึ่งที่ประกอบด้วยสมาชิกต่างวัย สามารถเข้าใช้บริการได้ในที่เดียวกัน โดย “ศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ” โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เน้นการให้บริการ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. Sports Medicine Center 2. Joint Preservation และ 3. Joint Replacement โดยขอยกตัวอย่างเรื่องความต่อเนื่องของการให้บริการของศูนย์ฯ ในทุกช่วงวัย ให้เห็นภาพตาม เช่น • ในระยะแรก ผู้มาใช้บริการอาจเป็นวัยรุ่นที่มาตรวจเช็คความพร้อมของร่างกายหรือเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อก่อนลงแข่งขันกีฬา • ต่อมาพอเข้าสู่วัยทำงาน อาจเกิดการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา มีอาการปวดที่หัวเข่าอย่างรุนแรงหรือเข่าบวมปูดด้วยปัญหาเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางกะทันหันจากการเล่นฟุตบอล หรือเล่นบาสเกตบอล หรือล้มจากการเล่นสกี • และพอเข้าสู่ผู้สูงอายุ อาจมีปัญหาข้อเข่าเสื่อม ซึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้เข่าที่ผิด เช่น นั่งคุกเข่าพับเพียบ ขัดสมาธิ ซึ่งเป็นท่าที่ทำให้ข้อเข่าถูกกดพับ และเอ็นกล้ามเนื้อถูกยืดมาก การนั่งเช่นนั้นนานๆ ทำให้การหมุนเวียนของเลือดไปเลี้ยงเข่าไม่ได้ดี หรืออาจเกิดด้วยสาเหตุส่วนใหญ่ร้อยละ 50 เกิดจากน้ำหนักตัวที่มาก ทำให้เข่าต้องแบกน้ำหนักส่วนเกินเป็นเวลานานหลายปี จนปวดเรื้อรัง จึงต้องมารักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เป็นต้น 

จะเห็นได้ว่า scope อาการของโรคนี้จะพบได้ในทุกช่วงอายุ การดูแลรักษาที่มีความต่อเนื่องจึงมีความจำเป็น โดยผู้ป่วยสามารถเข้ามารับบริการได้อย่างครอบคลุมที่ศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ ครบจบในที่เดียว ที่สำคัญทีมแพทย์ยังทราบถึงอาการและมีประวัติการรักษาเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด”

นพ. ชาลี สุเมธวานิชย์ แพทย์ผู้ชำนาญการศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ และข้อเทียม โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “นอกจากเรื่องจุดเด่นด้านการรักษาพยาบาลแบบ Holistic joint care ที่ครอบคลุมและต่อเนื่องแล้ว อีกจุดเด่นที่สำคัญของศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ คือเราได้มีการรวบรวมทีมแพทย์เฉพาะทางที่ชำนาญการในแต่ละสาขา เช่น ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ ข้อเทียม ข้อสะโพกและข้อเข่า เวชศาสตร์การกีฬา การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา และเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งบำรุงราษฎร์ให้ความสำคัญกับการรักษาเฉพาะทางอย่างมาก โดยแพทย์เฉพาะทางแต่ละท่านมีประสบการณ์สูงในการทำเคสเฉพาะทางที่ยากและซับซ้อน และสามารถใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยหรือใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษา เช่น การผ่าตัดส่องกล้องในข้อที่มีความละเอียดสูง หรือใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (Robotic Surgery) หรือคอมพิวเตอร์นำวิถี (Computer Navigator) ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”

“สำหรับ Journey ของผู้มาใช้บริการ สามารถเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ได้ตั้งแต่ระยะแรก เริ่มจากการป้องกัน การตรวจคัดกรองโรคทางกล้ามเนื้อ การวินิจฉัย การรักษา ซึ่งก็จะมีหลากหลายวิธีและมีเทคนิคต่างๆ ทั้งแบบผ่าตัด และไม่ต้องผ่าตัด หรือการผ่าตัดแบบรักษาข้อเดิมเอาไว้ หรือการผ่าตัดซ่อมเสริมข้อเทียมใหม่ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกแบบใช้เทคนิคเข้าทางด้านหน้า ไม่ตัดกล้ามเนื้อ หรือแบบใช้แขนกลหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของทีมแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยในแต่ละราย รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและกล้ามเนื้อให้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ สำหรับในรายผู้ป่วยที่มีความซับซ้อน อาทิ การผ่าตัดแก้ไขข้อเทียม หรือมีกระดูกที่แตกหักบริเวณข้อเทียม ฯลฯ จำเป็นต้องอาศัยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญสูง มีฝีมือ และมีประสบการณ์ในการรักษา นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังมีทีมสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องในการรักษาโรคเกี่ยวกับข้อ เช่น แพทย์ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์, แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด, แพทย์อายุรกรรม, แพทย์อายุรกรรมโรคข้อ, วิสัญญีแพทย์, พยาบาลผู้ชำนาญการโรคทางข้อ, นักกายภาพบำบัด และนักโภชนากร เป็นต้น”

นอกจากนี้ บำรุงราษฎร์ ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ ซึ่งเป็นทีมแพทย์ทำหน้าที่ตรวจตราดูแลผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด รวมถึงเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนเพื่อการรักษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ บำรุงราษฎร์ได้คำนึงถึง ‘การรักษาพยาบาลที่มีคุณค่า’ หรือ ‘Value Medicine’ หมายความว่า ทีมแพทย์และคณะกรรมการจะร่วมกันพิจารณาถึงการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายในราคาที่สมเหตุสมผล คุ้มค่ากับการรักษา ซึ่งจริงๆ แล้วค่าใช้จ่ายไม่ได้แพงอย่างที่คิด หากเทียบกับคุณภาพมาตรฐานภายใต้แบรนด์ “บำรุงราษฎร์” ซึ่งมีความใส่ใจและพิถีพิถันในทุกๆ รายละเอียด ตั้งแต่ในเรื่องของอุปกรณ์ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบใช้ครั้งเดียวสำหรับผู้ป่วย โดยจะไม่นำไปทำความสะอาดและนำมาใช้ซ้ำตามหลักมาตราฐานสากล รวมถึงมีการควบคุมการติดเชื้ออย่างเข้มงวดและเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ทำให้มีอัตราการติดเชื้อจากการผ่าตัดอยู่ในเกณฑ์ที่น้อยมาก และต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐานในระดับสากล โดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมบำรุงราษฎร์มีการติดเชื้อของข้อเทียม (Deep infection) เท่ากับ 0% (ข้อมูลพ.ศ. 2559-2561) และมีการให้ความรู้ผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด (pre-operative class) เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงกระบวนการรักษาทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการผ่าตัด รวมถึงการฝึกพัฒนากล้ามเนื้อโดยนักกายภาพบำบัด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนได้รับการผ่าตัด รวมถึงฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดและข้อจำกัดต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย

ทั้งนี้ โรงพยาบาลฯ มีการจัดทำแพ็กเกจ Fixed Prices การผ่าตัดมาตรฐานบำรุงราษฎร์ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สำหรับให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่ศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและข้อ และศูนย์อื่น ๆ  ได้คลายข้อกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยยังคงเน้นในเรื่องของความคุ้มค่า ความเหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยแต่ละรายและผลลัพธ์ของการรักษาสูงสุด นอกจากนี้โรงพยาบาลฯ ยังคงดำเนินนโยบายตรึงค่ารักษาพยาบาลและค่าแพทย์จนถึงกลางปี 2564 นี้ เพื่อเป็นการดูแลคนไทย ตลอดจนเพื่อขอบคุณผู้ป่วยทุกคนที่มอบความไว้วางใจในคุณภาพมาตรฐานและการบริการให้กับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มาอย่างต่อเนื่อง