สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน (TSAST) China Council of the Promotion for InternationalTrade Shanghai และ Chinese Academy of Sciences, Innovation Cooperation Center of Bangkok จัดงาน “Green Technology Expo 2024” “เปิดประตูสู่อนาคต ”Driving Sustainable Solutions: Advancing Business Through Green Technology ส่งเสริมแผนงานความยั่งยืน ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีสีเขียว
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 17 เม.ย.67 สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน (TSAST) China Council of the Promotion for International Trade Shanghaiและ Chinese Academy of Sciences, Innovation Cooperation Center of Bangkok ร่วมกันจัดงานแถลงข่าว เพื่อประกาศการจัดงาน “Green Technology Expo 2024” ที่จะจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) Hall 101-102 ระหว่าง วันที่ 24 – 26 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย-จีน (TSAST) และหน่วยงานจีนที่เกี่ยวข้อง มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนนโยบายของสหประชาชาติและการพัฒนาแบบยั่งยืน (SDG) และ Bio-Circular-Green Economy (BCG Economy) เพื่อรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก งานนี้จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ แนวคิด และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างธุรกิจและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ภายในงานจะมีการจัดแสดงนิทรรศการหลากหลายโซน ตั้งแต่เทคโนโลยีเกษตรกรรม การอาหาร ไปจนถึงเทคโนโลยีพลังงานใหม่ การจัดการน้ำและมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การบริการให้คำปรึกษาด้าน Green Energy และการเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการ นักวิจัย และผู้สนใจทั่วไปที่ต้องการสร้างความร่วมมือและหาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ
การจัดงานนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก นับเป็นโอกาสที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำและการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์รุ่นใหม่ในภูมิภาค การจัดงานครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมนโยบายเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า
ประธานสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย-จีน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย กล่าวถึงบทบาทของสมาคมในการนำเสนอวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคน และได้ชี้แจงถึงความสำคัญของ “Green Technology” ท่ามกลางปัญหาภาวะโลกร้อนและสภาวะโลกเดือดที่เราเผชิญในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อ 200 ปีที่แล้ว และการกระทำของมนุษย์
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย ได้หยิบยกความเห็นของบิล เกตส์นักธุรกิจชาวอเมริกัน หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ จากหนังสือเล่มหนึ่ง ที่กล่าวว่าภาวะโลกร้อนเกิดจากเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้นมา และในการแก้ไขปัญหานี้เราไม่ควรใช้เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ แต่ควรออกแบบเทคโนโลยีใหม่ที่เอื้อต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน มีราคาที่เหมาะสม และเข้าถึงได้ง่าย เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับทุกคน
“จากแนวคิดนี้จึงเกิดการผลักดัน Green Technology ที่ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากหลายประเทศที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง งาน Green Technology Expo จึงเป็นสถานที่สำคัญในการรวมรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะช่วยแก้ไขและปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน”ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย กล่าว
ศาสตราจารย์ ดร.พิชัย สนแจ้ง เลขาธิการสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย-จีน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับงาน “Green Technology Expo” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24-26 ตุลาคม 2567 ณ ไบเทคบางนา โดยกล่าวว่า งานนี้เป็นโอกาสในการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Green Technology ซึ่งรวมถึงการลดต้นทุนการผลิต การใช้ทรัพยากร และการลดการปล่อยของเสียและภาระต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ศาสตราจารย์ ดร.พิชัย กล่าวต่อว่า “งานนี้จะนำเทคโนโลยีมาเผยแพร่ในประเทศไทย เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศไทย, จีน และชุมชนนานาชาติ ในการส่งเสริมการใช้ Green Technology เพื่อเพิ่มมูลค่าในการผลิตอุตสาหกรรมและกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละภาคส่วน อีกทั้งยังเป็นการแสดงความร่วมมือไทย-จีน และความร่วมมือระหว่างนานาประเทศเพื่อขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีสีเขียวไปสู่อนาคต โดยมุ่งหวังให้เกิดการตั้งค่าคาร์บอนซีโร่ตามแนวทางที่รัฐบาลไทยและความร่วมมือนานาชาติได้วางไว้ ภาคการผลิตและภาคประชาชนจะต้องตระหนักถึง Climate change และ Carbon Footprint เพื่อลดต้นทุนการผลิตและสร้างโลกสีเขียวในอนาคตต่อไป”
นาย เพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการขับเคลื่อน BCG economy model เป็นวาระแห่งชาติ และได้มอบหมายให้กระทรวง อว. เป็นเจ้าภาพหลักในการขับเคลื่อน และดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน BCG ซึ่งประกอบด้วย 4 ด้านหลัก คือ 1. Clean Energy 2. Circular Material & Green Chemical 3. Food Waste Management และ 4. โครงสร้างพื้นฐานและบริการเพื่อการยกระดับอุตสาหกรรมด้านความยั่งยืน ทั้งยังได้มีการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องในการขับเคลื่อนประเทศและภูมิภาคให้ Go Green ผ่านการสร้างระบบนิเวศให้กับนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ และนักวิจัยจากทั้งหน่วยงานวิจัยและสถาบันอุดมศึกษา เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก การแสวงหาแหล่งพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกด้วยการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว
นายเพิ่มสุข กล่าวต่อว่า กระทรวง อว. ได้จัดทำแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งครอบคลุมประเด็นเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่อการแก้ปัญหาวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ โดยตั้งแต่ปี 2563 ถึงปี 2566 ได้มีงานวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจำนวนมาก และปัจจุบันกระทรวง อว.ได้ดำเนินการจัดตั้ง SRI Consortium for Net Zero เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทยผ่านวิทยาศาสตร์ การวิจัย และนวัตกรรม พร้อมบูรณาการภาคเอกชน ภาครัฐ และภาควิชาการบนรากฐานของการเป็นทั้งมิตรและหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทยกับจีน ทั้งสองฝ่ายมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันในทุกมิติเพื่อมุ่งสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีคุณภาพ โดยใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นตัวขับเคลื่อน และมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่คำนึงถึงประชาชนเป็นศูนย์กลาง
“ผมเชื่อมั่นว่า Green Technology Expo 2024 จะเป็น platform สำคัญยิ่งที่จะแสดงถึงศักยภาพขององค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการร่วมคิด ร่วมสร้าง และร่วมสานความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงาน การเกษตร การแพทย์ ตลอดจนการลดการปล่อยคาร์บอนจากภาคการผลิต เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของประเทศและโลกของเรา” ปลัด อว. กล่าวทิ้งท้าย
นายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ ประธานสถาบันเศรษฐกิจและการลงทุนไทย-จีน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพร่วม และแสดงความเห็นถึงสภาวะโลกร้อนว่าทางประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุความเป็นกลางทางด้านคาร์บอนในปี 2050 ดังนั้นการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนจึงเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญอย่างมากในการผลักดันพันธกิจนี้ ซึ่งทางสภาเองมีความตั้งใจที่จะผลักดันอุตสาหกรรมต่างๆให้เข้าสู่ BCG
ทั้งนี้ทางสภาฯมีการจัดตั้งสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขึ้น โดยร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต คิดว่าจะสามารถสนับสนุนการจัดงาน Expo ในครั้งนี้ได้ และยังจัดตั้งกองทุน Innovation One ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว) เพื่อสนับสนุน SME ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการสนับสนุนงาน Green Technology Expo 2024 ในปีนี้
นายวุฒิชัย ประชาพร ผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายที่สำคัญในการปรับธุรกิจและอุตสาหกรรมให้เหมาะสมกับโลกอนาคต โดยยกระดับสู่เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ เพื่อสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน “การเข้าร่วมจัดงาน Green Technology Expo 2024 ครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรม ซึ่งเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเจ้าของเทคโนโลยี นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ นักวิจัย ที่จะร่วมกันเสนอเทคโนโลยี และต่อยอดความรู้ แก้ไขปัญหา จะทำให้เกิดทั้ง Business Matching และ Technology Matching เพื่อพัฒนาธุรกิจตามแนวนโยบาย โมเดลเศรษฐกิจ BCG(Bio-Circular Green Economy) และ SDG (Sustainable Development Goals) ของสหประชาชาติ และนโยบายของประเทศไทยเราเอง”
นายวุฒิชัย กล่าวด้วยว่า การให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยได้ยึดหลัก Mutual Benefit และ Sincerity สำหรับความร่วมมือในการจัด 2024 Green Technology Expo ครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดการยกระดับคุณภาพชีวิต ยกระดับเทคโนโลยีและการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา หรือการร่วมมือป้องกันวิกฤตและส่งต่อโลกที่สวยงามและยั่งยืนสู่คนรุ่นต่อๆไป ควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจ
รศ.ดร. ปุณณมา ศิริพันธ์โนน อุปนายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการบ่มเพาะนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์และแก้ปัญหาสังคมในปัจจุบัน ซึ่งปัญหา Climate change ณ ปัจจุบัน จะไม่ใช่แค่นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยเท่านั้นที่มีหน้าที่แก้ปัญหา แต่เป็นหน้าที่ของทุกๆคนที่ต้องร่วมมือกัน ซึ่งทางสมาคมฯมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสความตระหนักรู้ ความเข้าใจ เผยแพร่สาระสำคัญ และเทคโนโลยีใหม่ๆผ่านทางงาน Green Technology Expo 2024
สำหรับความร่วมมือในการจัด 2024 Green Technology Expo ครั้งนี้ ทางผู้จัดงานคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเกิดการยกระดับคุณภาพชีวิต กระจายเทคโนโลยีและการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา หรือร่วมปกป้อง ป้องกันวิกฤตและส่งต่อโลกที่สวยงามและยั่งยืนสู่คนรุ่นต่อๆไป ควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “Driving Sustainable Solutions: Advancing Business Through Green Technology”ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน พร้อมติดตามข้อมูลและข่าวสารของงาน Green Technology Expo 2024 เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.greentechnology-expo.com หรือที่เพจเฟซบุ๊ก Green Technology Expo