DITP เปิดตัวหนังสือคู่มือส่งออกแกลมปิง ชี้ช่องโอกาสส่งออกสินค้าตลาด Niche ศักยภาพสูง

DITP ชี้ช่องท่องเที่ยวแกลมปิงต่างประเทศเติบโตต่อเนื่องหลังโควิด ข่าวดีสำหรับผู้ส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ที่กำลังมองหาช่องทางเจาะตลาดเฉพาะใหม่ๆ พร้อมเปิดตัวคู่มือส่งออกสินค้าแกลมปิง ผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาด สอดรับนโยบายรัฐบาล “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”

(วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566) นายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้เกียรติเป็นประธานงานแถลงข่าวและเสวนา “โอกาสส่งออกกลุ่มสินค้าแกลมปิง (Glamping)” พร้อมเปิดตัวคู่มือการตลาดเชิงลึกโอกาสและแนวทางการเข้าสู่ตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่มสินค้าแกลมปิง (Glamping) ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการจัดทำคู่มือการตลาดเชิงลึกโอกาสและแนวทางการเข้าสู่ตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่มสินค้าแกลมปิง (Glamping) โดยมีคุณธณพร ตันติยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการผู้บริหารหน่วยธุรกิจสยามพารากอนให้การต้อนรับ

สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นกลุ่มแกลมปิง เป็นสินค้าตลาดเฉพาะ (Niche) กลุ่มใหม่ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการส่งออก เนื่องจากการท่องเที่ยวแกลมปิงในตลาดโลก เป็นตลาดเฉพาะที่มีมูลค่าสูงและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนายพรวิช กล่าวว่า “แกลมปิง หรือ Glamping มาจากคำว่า ‘Camping’ บวก ‘Glamorous’ หมายถึงการท่องเที่ยวแคมปิง (Camping) แบบหรูหราหรือมีสไตล์ สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ชอบแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ยังคงยึดติดความสะดวกสบาย บวกกับกระแสนิยมสร้างคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์แกลมปิง จากแบรนด์คุณภาพสูง มีดีไซน์และฟังก์ชัน ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หรูหราหรือมีสไตล์ แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าสินค้าแคมปิงทั่วไป ซึ่งจากรายงานของ Grandview research พบว่าขนาดตลาดของธุรกิจแกลมปิงโลกเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงหลังโควิด -19 โดยในปี 2566 ตลาดแกลมปิงโลกมีมูลค่าถึง 3.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 10.2 และคาดว่าในอีก 7 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่า            สูงถึง 5.93 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง DITP มองว่าแนวโน้มดังกล่าวจะส่งผลต่อความต้องการสินค้าแกลมปิงในตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทย ความนิยมการท่องเที่ยวแกลมปิงยังอยู่ในวงจำกัด ทำให้ผู้ประกอบการไทยกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นส่วนใหญ่ ยังขาดข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปพัฒนาสินค้าให้รองรับกับรสนิยมของผู้บริโภคสินค้าแกลมปิงในตลาดโลก” 

“ภายใต้นโยบายรัฐบาล ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะที่มีพันธกิจและภารกิจในการส่งเสริมการส่งออก สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสของตลาดเฉพาะกลุ่มสินค้าแกลมปิง จึงได้จัดงานแถลงข่าวและเสวนาในครั้งนี้ พร้อมเปิดตัวหนังสือ “คู่มือการตลาดเชิงลึก: โอกาสส่งออกกลุ่มสินค้าแกลมปิง (Glamping)” เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มและคุณลักษณะเฉพาะของสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแกลมเปอร์ โอกาสและตลาดส่งออกศักยภาพ รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ ในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อช่วยจุดประกายให้กับผู้ประกอบการไทยที่สนใจได้มองเห็นโอกาสและช่องทางในการขยายตลาดกลุ่มสินค้า (Glamping) เพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจและเพิ่มมูลค่าในการส่งออกต่อไป” นายพรวิชกล่าวเสริม

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงตัวอย่างสินค้าแกลมปิงจากแบรนด์ดังของไทย ได้แก่ Boneproject by blackcamper, Roundcorners, CAMP15, Lazykraft, HILLY, AHU’s, Custom metal, Calm outdoors, Plyworks Camp, Morning Camp, Ironcamp, Gori Outdoor, unito, so design, hiking, vatusy leather craft, nomadic, Element 72 รวมถึงการจัดเสวนาโอกาสการส่งออกสินค้าแกลมปิง ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ตลอดจนInfluencer ในวงการแกลมปิง อาทิ คุณไตรเนตร เกียรติตั้ง คุณพชร ตรีทิพย์ธนากูล คุณนัฐพล พูนพิริยะ ทีมแบรนด์ Element 72คุณรุ่งโรจน์ สุวรรณธาดา (เป็นต่อ) มาร่วมให้ความรู้และแชร์ประสบการณ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มสินค้าแกลมปิง (Glamping) เพื่อการส่งออกอีกด้วย

สำหรับการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท ขยายตัวลดลงร้อยละ 15 จากภาวะเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะตลาดส่งออกหลักของไทยที่ชะลอตัวลงอย่างมาก อย่างไรก็ดี คาดว่าการส่งออกในไตรมาส 4 ของปี 2566 จะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น จากเสถียรภาพทางการเมืองของไทย รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในตลาดส่งออกสำคัญที่เริ่มกลับมาเป็นบวก โดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดแกลมปิงที่มีศักยภาพสูงของไทย

ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อขอรับหนังสือคู่มือดังกล่าวในรูปแบบ Soft File ได้ที่ กลุ่มงานสินค้าตลาดเฉพาะ สำนักส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร 02 507 8386 หรือ ผ่านทาง email : nicheprditp@gmail.com