ขับ Honda Civic e:HEV ไปดื่มด่ำบรรยากาศสุด Unseen @Beyond Skywalk Nangshi

หนึ่งในจุดหมายปลายทาง ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลมา จ.พังงา คงหนีไม่พ้น “จุดชมวิวเสม็ดนางชี” ที่เผยมุมมองอันงดงามของธรรมชาติบริเวณอ่าวพังงา ซึ่งในปีนี้ความงดงามได้ถูกซ้อนทับด้วยความมหัศจรรย์ เราขอพาทุกคนออกเดินทางจากเมืองใหญ่ เพื่อมุ่งสู่แลนด์มาร์คแห่งใหม่ “Beyond Skywalk Nangshi” โรงแรมที่มาพร้อมสุดยอดสถาปัตยกรรมสกายวอล์คกระจก ความยาว 180 เมตร ด้วยรถยนต์ Honda Civic e:HEV รุ่นใหม่ล่าสุด ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า จะพาคุณไปพบกับวิวสุด Unseen ที่จะมัดสายตา และตรึงหัวใจของคุณไว้ ณ ดินแดนแห่งความงดงามเหนือคำบรรยาย

เริ่มออกเดินทางด้วย Honda Civic e:HEV EL+

ยานพาหนะในการเดินทางในครั้งนี้ คือ Honda Civic e:HEV EL+ สีแคนยอนริเวอร์ (​สีพิเศษเฉพาะรุ่น e:HEV EL+ และ EL+ เท่านั้น ) รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024 จากค่ายรถสุดเก๋าที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีของชาวไทย ซึ่งมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบฟูลไฮบริดตอบโจทย์การใช้งานที่ทันสมัย ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยแบรนด์ได้ใส่เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีประสิทธิภาพสูงมาให้ จึงได้มาซึ่งอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม อยู่ที่ 25 กม./ลิตร พร้อมแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร

Honda Civic e:HEV EL+ มาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่ง DNA ความสปอร์ตแบบพรีเมียม ด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าและท้ายแบบ LED ออกแบบมือจับด้านนอกสีเดียวกับตัวรถตกแต่งด้วยโครเมียมเพิ่มความหรูหรา ซึ่งมาพร้อมกับกระจกมองข้างที่มีไฟเลี้ยวในตัว และล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว โดยมีกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ และเซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด

โดยประกอบไปด้วยโหมดขับขี่ 4 รูปแบบ เพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ขับขี่ในทุกสถานการณ์ ได้แก่

1. Individual Mode : โหมดการขับขี่ที่ปรับแต่งค่าได้อิสระตามสไตล์คุณ
2. Sport Mode : โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต
3. Normal Mode : โหมดการขับขี่แบบปกติ
4. Econ Mode : โหมดการขับขี่แบบประหยัด

สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ หรือ Honda Sensing ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจในทุกโค้งของการขับขี่ ด้วยระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก(CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ(LKAS), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ(ACC with LSF), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ(AHB), ระบบเตือนเมื่อรถยนต์คันหน้าเคลื่อนที่(LCDN), และ ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ(RDM with LDW)

เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี โดยวางแผนจะหยุดพักระหว่างทางในบริเวณเขตจ.ชุมพร ก่อนจะเดินทางต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อที่จะไปถึงโรงแรมในช่วงบ่ายของวันศุกร์ ซึ่งรวมเป็นระยะทางประมาณ 810 กม. โดยรถยนต์คันนี้ใช้น้ำมันเบนซิน E20 และมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 40 ลิตร โดยถ้าเติมน้ำมันเต็มถังจะวิ่งได้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 600 กม. ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณแวะเติมน้ำมันและทานข้าวแกงหลานคุณอู๊ต ที่ ปตท.ท่าฉาง สุราษฎ์ธานี เพราะเส้นทางต่อจากนี้จะมีร้านอาหารเปิดให้บริการน้อยมากๆ แม้ว่าจะมีหมุดบน Google Maps ก็ตาม

ห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำ ขนาดกว้างขวางมีระยะ ไม่ติดช่วงเข่าและศีรษะแม้คนตัวสูง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว เบาะโดยสารด้านคนขับสามารถปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และ 4 ทิศทางสำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมแผงบังแดดคู่หน้าที่มีกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดและไฟส่องสว่างทั้ง 2 ที่นั่ง ระบบปรับอากาศที่ทั่วถึงแม้นั่งอยู่ตอนหลังของตัวรถ สำหรับครอบครัวที่มีเด็กก็มีจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กอยู่ด้านหลัง ซึ่งเบาะด้านหลังสามารถแยกพับได้แบบ 60 : 40

Honda Civic e:HEV EL+ สามารถมอบความเพลิดเพลินด้วยระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE สุดพรีเมี่ยมมากถึง 12 ตำแหน่ง ให้กับผู้ขับขี่ เพื่อให้ทุกจังหวะดนตรีโอบล้อมคุณราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตส่วนตัว และไม่ต้องกังวลไปกับเสียงรบกวนภายนอกด้วยระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร(ANC)

เติมเต็มความบันเทิงด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay, Andriod Auto, และการเชื่อมต่อ Bluetooth รวมไปถึงการสั่งการด้วยเสียง Siri และ Andriod Auto โดยมาพร้อมเเอปพลิเคชัน เเละบริการของ Google ที่ติดตั้งมาเรียบร้อยแล้ว ทั้งระบบ Google Assistant, Google Maps เเละอีกหลากหลายเเอปพลิเคชันบน Google Play ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลโทรศัพท์ของผู้ใช้งานได้มากถึง 6 เครื่องด้วยกัน(ถ้าต้องการเพิ่มรายชื่อมากกว่าจำนวนที่สามารถบันทึกได้ ต้องทำการลบรายชื่อเดิมออกก่อน)

สำหรับช่องเชื่อมต่อภายในรถประกอบด้วย USB Type C จำนวน 4 ตำแหน่ง แบ่งเป็นสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า 2 ตำแหน่ง และผู้โดยสารตอนหลังอีก 2 ตำแหน่ง รวมไปถึงรองรับการชาร์จโทรศัพท์ด้วย Wireless Charger บริเวณด้านล่างของคอนโซลกลาง

แน่นอนว่าสิ่งที่จำเป็นมากๆ สำหรับการเดินทางในยุคปัจจุบันก็คือ GPS นำทาง เราสามารถระบุพิกัดบน Google Maps ได้จากโทรศัพท์ หรือบนหน้าจอทัชสกรีนก็ทำได้ โดยสามารถเชื่อมต่อการนำทางไปพร้อมกับการฟังเพลงผ่านแอปพลิเคชันสีเขียวยอดนิยมทั้ง 2 แอป ได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด

ข้อควรระวังของการใช้งาน! คือ การเชื่อมต่อเพื่อใช้งานระบบ GPS ไปพร้อมกับการฟังเพลง แบตเตอรี่โทรศัพท์จะลดลงอย่างรวดเร็วกว่าปกติ ซึ่งการชาร์จแบบไร้สายด้วย Wireless Charger อาจไม่รวดเร็วพอที่จะทดแทนแบตเตอรี่ที่เสียไป แนะนำให้ใช้สาย USB Type C ชาร์จไปด้วยระหว่างการเดินทางไกลๆ เพื่อความมั่นใจให้การเดินทางราบรื่นไร้ปัญหา

หลังจากการเดินทางอันยาวนาน ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกสลับกับปลอดโปร่ง ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง Beyond Skywalk Nangshi ~

เดินทางมาถึง Beyond Skywalk Nangshi

Beyond Skywalk Nangshi (บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี) โรงแรมน้องใหม่ที่ตั้งอยู่ใน ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2567 นี้ เป็นโรงแรมลำดับที่ 9 ของเครือ “กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย” ผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมในภาคใต้ที่บริหารงานโดยคนไทยมากว่า 40 ปี โดยโรงแรมขนาด 63 ห้อง ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 500 ล้านบาทแห่งนี้ เป็นโรงแรมซีรีย์ “ขุนเขา” (Mountain Series) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ซีรีย์ ของแบรนด์ “บียอนด์” ภายใต้โปรเจกต์ “The Colors of Beyond” ของเครือกะตะกรุ๊ป ซึ่งมุ่งหวังจะมอบจุดหมายปลายทางที่สงบ และสมดุลท่ามกลางธรรมชาติของภูเขาอันยิ่งใหญ่ให้กับผู้เข้าพัก

Highlight : Beyond Skywalk

Beyond Skywalk (บียอน สกายวอล์ค) คือ การผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอันยอดเยี่ยมกับความงดงามของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นไฮไลค์สำคัญที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางสุด Unseen สำหรับทุกคน ทางเดินกระจกลอยฟ้า ที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทยถึง 180 เมตร และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 80 เมตร ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตัดกับสายน้ำสีเขียวมรกตและสีเขียวสดของป่าชายเลนบริเวณอ่าวพังงา ประสบการณ์ชมวิวสุดอลังการแบบพาโนราม่ากำลังรอให้คุณมาเก็บความทรงจำ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนลาลับขอบฟ้าในทุกวัน

สกายวอล์คแห่งนี้มีความมั่นคงแข็งแรง ด้วยโครงสร้างที่ได้รับการคำนวณมาอย่างแม่นยำ พร้อมกระจกสามชั้นหนา 30 มม. ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 500 กิโลกรัม/ตารางเมตร ทำให้คุณสามารถมั่นใจในความปลอดภัยและดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างหมดห่วง แม้ว่าความโปร่งใสของกระจกจะทำให้คุณมองเห็นพื้นด้านล่างอย่างชัดเจน สร้างความตื่นเต้นเร้าใจเล็กๆ แต่รับรองได้เลยว่าความปลอดภัยของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด

สำหรับผู้สนใจเที่ยวชมสกายวอล์ค ถ้าคุณเป็นผู้เข้าพักในโรงแรมจะสามารถเข้าชมได้ฟรีตลอดการพัก และมีบัตรเข้าชมจำหน่ายสำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าพักในโรงแรมด้วยเช่นกัน โดยสกายวอล์คเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 6.00 น. – 19.00 น. ซึ่งสามารถซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอินของโรงแรมด้านล่างติดกับลานจอดรถ โดยคุณสามารถเดินตามทางลาดเพื่อขึ้นจุดชมวิวด้วยตัวเองได้ แต่ทางโรงแรมก็มีรถสองแถวฟรี คอยบริการ รับ-ส่ง เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนเช่นกัน ซึ่งเป็นวิธีที่เราแนะนำให้คุณใช้บริการ

มุมสูงของทางเดินจากเคาน์เตอร์เช็คอิน ไปยังบริเวณลิฟต์เพื่อขึ้นจุดชมวิว-สกายวอล์ค

ค่าบริการเข้าชมสกายวอล์ค (กรณีไม่ได้เข้าพักในโรงแรม)

• ค่าบริการ ไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม
  • ผู้ใหญ่ : 450 บาท
  • เด็ก/นักเรียน (สูงไม่เกิน 130 ซม.) : 250 บาท
  • เด็กเล็ก (สูงไม่เกิน 60 ซม.) : ฟรี
• โปรโมชั่น รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม
  • ผู้ใหญ่ : 500 บาท (รวมเครดิตอาหารและเครื่องดื่ม 200 บาท)
  • เด็ก/นักเรียน (สูงไม่เกิน 130 ซม.) : 300 บาท (รวมเครดิตอาหารและเครื่องดื่ม 100 บาท)
  • เด็กเล็ก (สูงไม่เกิน 60 ซม.) : ฟรี
  • *สำหรับเครดิตอาหารและเครื่องดื่ม จะมีบริการอาหาร 2 ช่วงเวลา คือ
    • 6.30 – 10.30 น. สามารถแลกรับเซ็ตอาหารเช้า ที่ห้องอาหาร Horizon หรือ Kanda Coffee & Bakery
    • 10:30 – 19:00 น. สามารถใช้บริการได้ที่ห้องอาหาร “ลับตะวัน”

ห้องพักของโรงแรม

“ชมวิวจากสกายวอล์คก็สวยมากแล้ว แต่จะเป็นยังไง? ถ้าคุณแค่ลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้า ก็พบภาพความงดงามของวิวหลักล้านได้จากห้องพักของคุณ”

Beyond Skywalk Nangshi ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 63 ห้อง แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางตั้งแต่ 30-243 ตารางเมตร ที่มาพร้อมระเบียงสำหรับชมวิวหลักล้านในบรรยากาศที่เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติตลอด 24 ชั่วโมง ที่พักแห่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการและงบประมาณที่หลากหลายของผู้เข้าพัก ไม่ว่าคุณจะมากับครอบครัว มากับแฟน หรือมากับเพื่อน นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ สระว่ายน้ำ กิจกรรมทางน้ำ และกิจกรรมท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้คุณได้มาสัมผัส

ประเภทของห้องพัก

1. Forest Tent : เต็นท์วิวป่ารายล้อมด้วยความงามของธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม
   • มีพื้นที่ใช้สอยรวม 73 ตร.ม. (พื้นที่ห้องนอน 23 ตร.ม.) จำนวน 15 เต๊นท์
   • เหมาะสำหรับ ผู้ใหญ่ 3 คน หรือ ผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน (เฉพาะเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป)
2. Seaview Tent : เต็นท์หรูวิวทะเล ให้คุณตื่นขึ้นมาพบกับวิวพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลแบบพาโนราม่า
   • มีพื้นที่ใช้สอยรวม 73 ตร.ม. (พื้นที่ห้องนอน 23 ตร.ม.) มีจำนวน 15 เต๊นท์
   • เหมาะสำหรับ ผู้ใหญ่ 3 คน หรือ ผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน (เฉพาะเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป)
3. Seaview Pavilion : ห้องพักวิวทะเลเพื่อสัมผัสความงดงามของวิวเสม็ดนางชี สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
   • มีพื้นที่ใช้สอย 30-31 ตร.ม. เป็นอาคาร 2 ชั้น จำนวน 11 หลัง รวม 22 ห้อง
   • เหมาะสำหรับ ผู้ใหญ่ 3 คน หรือ ผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน หรือ ผู้ใหญ่ 3 คน + เด็กเล็ก 1 คน
4. Deluxe : ห้องพักสำหรับผู้เข้าพักแบบครอบครัวที่ต้องการความสงบหรือเป็นส่วนตัว
   • มีพื้นที่ใช้สอย 55-66 ตร.ม.
   • สามารถรองรับ ผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 2 คน สำหรับห้องขนาด 55 ตร.ม. และ ผู้ใหญ่ 4 คน + เด็ก 2 คน สำหรับห้องขนาด 66 ตร.ม.
5. Pool Villa : วิลล่าหรูหราที่มอบประสบการณ์การเข้าพักแบบเป็นส่วนตัวสำหรับครอบครัวใหญ่ กลุ่มเพื่อน หรือแขกวีไอพี
   • มีพื้นที่ใช้สอย 238-245 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ด้านหน้าระเบียง

โดยวันนี้เราจะพักกันที่ “เต็นท์วิวทะเล” เต๊นท์หรูติดแอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่สามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่เสม็ดนางชีได้ตั้งแต่ลืมตาตื่นในตอนเช้า เป็นอภิสิทธิ์เฉพาะผู้เข้าพักในโรงแรมแห่งนี้เท่านั้น เต๊นท์มีขนาดกว้างขวางพื้นที่ใช้สอยรวม 73 ตร.ม. แบ่งเป็นสัดส่วนของห้องนอน ห้องน้ำ และระเบียงชมวิว โดยห้องนอนมีขนาด 23 ตร.ม. แอร์เย็น สะอาด เตียงนอนนุ่มสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมปลั๊กไฟอยู่รอบห้องให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและเพียงพอ แอบกระซิบว่า มีปลั๊กไฟจะอยู่ด้านข้างของเตียงด้วยนะ เพราะค่อนข้างจะมองหายากสักหน่อย และอย่าลืมเปิดม่านทุกด้านเพื่อสัมผัสกับวิวพาโนราม่าสุดตระการตาที่แค่นั่งดูวิวจากในห้องเฉยๆ ก็อิ่มเอมไปทั้งหัวใจแล้ว

ห้องอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

Beyond Skywalk Nangshi ประกอบด้วยห้องอาหาร Horizon, ห้องอาหารลับตะวัน, Kanda Coffee & Bakery, สระว่าย และพลูบาร์ ที่พร้อมให้บริการตลอดวัน โดยการเดินทางจากห้องพักมายังบริเวณห้องอาหารและสกายวอล์คสามารถโทรเข้า Lobby เพื่อใช้บริการรถสองแถวได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเดินให้เมื่อย เพราะทางก็ค่อนข้างแอบชันอยู่พอสมควร

ห้องอาหาร Horizon

ห้องอาหารหลักของโรงแรมแห่งนี้ เปิดบริการตลอดทั้งวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า (6.30 น. ถึง 10.00 น.) ไปจนถึงพระอาทิตย์ตกยามเย็น (17.00 น. ถึง 22.00 น.) เลือกได้ทั้งบรรยากาศสบายๆ ใกล้ชิดธรรมชาติของโซน Outdoor และโซน Indoor ที่ตกแต่งมาอย่างสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณด้านบนของ Beyond Skywalk ทำให้สามารถเห็นวิวทิวทัศน์แบบพาโนราม่า 180 องศาของอ่าวพังงาได้ตลอดวัน

สำหรับผู้เข้าพักในโรงแรม สามารถอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ด้วยเมนูอาหารที่หลากหลายในวันที่โรงแรมคึกคัก และเลือกเมนู A la Carte (2 เมนูต่อท่าน) ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ในวันที่ผู้เข้าพักน้อย ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารแสนอร่อย ไปพร้อมกับบรรยากาศที่หาไม่ได้จากที่ไหน

*ในวันที่มีอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติก็สามารถสั่งเมนู A la Carte ได้เช่นกัน

**ในวันที่ผู้เข้าพักน้อยจะให้บริการเฉพาะมนู A la Carte เท่านั้นไม่มีบริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ

เมนู A la Carte สำหรับอาหารเช้า มีดังนี้

• โยเกิร์ตผลไม้ (Fruits Yoghurt Bowl)
• อเมริกันเบรคฟาสต์ (American Breakfast)
• อะโวคาโด้ครีมชีสบนขนมปังย่าง (Avocado & Cream Cheese on Toasted) Recommend
• แพนเค้ก (Pancake)
• บียอนเบรคฟาสต์ (Beyond Breakfast) Recommend
• ครัวซองค์แซลมอนรมควัน (Croissant & Smoked Salmon)
• นางชีไข่เบเนดิกท์ (Nangshi Eggs Benedict) Recommend
• แซลมอนรมควันบนขนมปังย่าง (Smoked Salmon on Toast)
• ข้าวต้มแห้งซีฟู้ด (Khao Tom Haeng Seafood)
• ไก่ตุ๋นยาจีน (Kai Tun Ya Chin)
• ขนมจีนน้ำยาปู (Khanom Chin Nam Ya Pu) Recommend
• หมี่สั่วน้ำกุ้ง (Mi Sua Nam Kung)
• ข้าวต้มปลา (Khao Tom Pla)

Kanda Coffee & Bakery

นอกจากห้องอาหารหลักที่พร้อมเติมเต็มมื้ออาหารของคุณตลอดวัน Beyond Skywalk Nangshi ยังมีคาเฟ่ทำเลดีพร้อมวิวพาโนราม่า 180 องศา แบบไม่ต้องขับรถไปไหนไกล เชิญมาลิ้มรสอร่อยพลางชมวิวหลักล้านกันได้ที่ “Kanda Coffee & Bakery” ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านล่างของห้องอาหาร Horizon และอยู่ติดกับแลนด์มาร์คสำคัญอย่าง Beyond Skywalk อีกด้วย

Kanda Coffee & Bakery มีบริการกาแฟและขนมหวานแสนอร่อย สำหรับผู้เข้าพักในโรงแรมและผู้มาเที่ยวชมสกายวอล์ค ไม่ว่าจะเป็น เค้ก บิงซู ฮันนี่โทสต์ ปังเย็น ขนมปังโฮมเมดต่างๆ และชานมไข่มุก เปิดบริการตั้งแต่ 6.30 น. ถึง 18.00 น. ของทุกวัน สายคาเฟ่ต้องห้ามพลาด! สวรรค์ของคนรักวิว รับประกันความฟินสำหรับชาว Cafe Hopping

สระว่ายน้ำ ชั้น 4 บนห้องอาหารลับตะวัน

สระว่ายน้ำแบบ Infinity ที่มอบทัศนียภาพอันงดงามของท้องทะเลแบบไร้ขอบเขต พร้อมวิวเสม็ดนางชีให้คุณเพลิดเพลินขณะว่ายน้ำตั้งแต่เช้าถึงเย็น (7.00 น. – 19.00 น.) จากชั้น 4 ของอาคารเหนือห้องอาหารลับตะวัน พร้อมผ่อนคลายไปกับกิจกรรมการอาบแดดริมสระกับเตียงอาบแดด 24 เตียง หรือจะสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ จากพูลบาร์มาเพิ่มความสดชื่นก็ได้ (เปิดบริการ 10.00 น. – 18.00 น.) แอบกระซิบว่าที่นี่เหมาะกับการดูพระอาทิตย์ตกดินสุดๆ ไปเลย โดยบริเวณสระว่ายน้ำเปิดให้บริการเฉพาะผู้เข้าพักในโรงแรมเท่านั้น (เปิดบริการ 7.00 น. – 19.00 น.) มาร่วมแหวกว่ายสร้างความทรงจำสุดประทับใจที่ Beyond Skywalk Nangshi กันเถอะ

หลังจากมานอนเล่นชิลๆ อยู่พังงาหลายวันแล้ว ก็ถือโอกาสขับรถไปจังหวัดใกล้เคียงหาของอร่อยทานกันสักหน่อย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เท่านั้น

แวะไปภูเก็ตกัน!

1. หมี่หุ้นป้าฉ่าง จี้ใจ – บางเหนียว/ศูนย์อาหารบางเหนียว

จุดหมายแรกที่เราจะมากันที่ จ.ภูเก็ต ก็คือร้านหมี่หุ้นป้าฉ่าง จี้ใจ – บางเหนียว ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ดั้งเดิมของจังหวัดที่มีการรวบรวมร้านอาหารพื้นเมืองหลายๆ ร้านมาอยู่ในโซนเดียวกันคล้ายศูนย์อาหารพื้นเมือง สามารถจอดรถแถวหน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียวฝั่งตรงข้ามของร้านได้ โดยเมนูที่มีขาย ได้แก่

1. หมี่หุ้นกระดูกหมู ของป้าฉ่าง – เส้นหมี่ขาวที่ผลิตในภูเก็ตผัดซีอิ๊ว ใส่กุยช่าย โรยหน้าด้วยหอมแดง เสิร์ฟพร้อมซุปกระดูกหมู ตุ๋นจนเปื่อยหอมพริกไทย รสกลมกล่อม เป็นอาหารของชาวจีนใน จ.ภูเก็ต
2. โอวต้าว บางเหนียว (มิชลิน 3 ปีซ้อน) – เปิดมานานกว่า 40 ปี มีลักษณะคล้ายหอยทอดแต่ไม่เหมือนกัน หากินได้ที่ภูเก็ตเท่านั้น ทำจากเผือกนึ่งและอาหารทะเลนำมาผัดกับไข่และแป้งมันผสมแป้งข้าวเจ้าจนหอมกลิ่นกระทะ โรยด้วยกระเทียมเจียวกากหมูหอมกรอบ นี่เป็นเมนูโปรดของเราเลย
3. โลบะ – ส่วนต่าง ๆ ของหมูต้มพะโล้ที่นำมาทอดให้กรอบ เคี้ยวเพลินๆ จิ้มน้ำจิ้มหวานเผ็ดใส่ถั่ว
4. เปาะเปี๊ยะสด – เป็นเปาะเปี๊ยะสดสไตล์จีนฮกเกี้ยน ซึ่งมีใส้เป็นมันแกวผัด ถั่วงอก ผักกาดหอม หมี่กรอบ และหมูแดง ราดด้วยน้ำจิ้มที่มีหวาน เผ็ดเล็กน้อย
5. หมูสะเต๊ะ – สไตล์ภาคกลาง รสชาติอยู่ในมาตรฐาน เหมือนไม่แตกต่างแต่ก็สั่งทุกครั้งอยู่ดี
6. โอ้เอ๋ว – หวานเย็น เด้งดึ๋ง เป็นวุ้นที่ได้จากเมล็ดโอ้เอ๋วโปะด้วยน้ำแข็ง ถั่วแดง และน้ำหวาน ใช้ดับร้อน ให้ความรู้สึกสดชื่นไปทั้งตัว

โทร : 085 7868656 หมี่หุ้นป้าฉ่าง จี้ใจ-บางเหนียว

2. จี้อ๊อด ห่อหมกสะพานหิน

จุดหมายที่ 2 ของเราคือ “ตลาดนัด สะพานหิน” ซึ่งร้านที่เราอยากจะแนะนำเป็นพิเศษก็คือ “จี้อ๊อด ห่อหมกสะพานหิน” ร้านห่อหมกแบบฉบับภูเก็ตเจ้าดังที่คนพื้นที่แนะนำ ราคาห่อละ 17 บาท เป็นรถพ่วงข้างที่มาตั้งโต๊ะนึ่งห่อหมกกันสดๆ ตรงนั้นเลย รสชาติบอกเลยว่าเข้มข้น นุ่มละมุนลิ้น เนื้อปลาให้มาแบบไม่มีกั๊ก เผ็ดนิดๆ กำลังดี เปิดร้านช่วงเย็นของทุกวัน 16.00 น. ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็ขายหมดแล้ว คนต่อคิวยาวมากทั้งคนพื้นที่และนักท่องเที่ยว ส่วนตัวเราซื้อกลับกรุงเทพฯ อัดน้ำแข็งใส่กล่องแล้วเปลี่ยนน้ำแข็งทุกวัน กว่าจะถึงกรุงเทพฯ ก็ 3 วันนับจากวันที่ซื้อ รอดค่ะ ไม่เสีย กลับบ้านมายังอร่อยเหมือนเดิม ขอแนะนำว่าพลาดไม่ได้เลยนะคะ

3. สะพานสารสิน

ก่อนกลับแวะลงไปเดินเล่นพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ “สะพานสารสิน” กันสักหน่อย สะพานแห่งนี้เป็นสะพานเชื่อมจังหวัด ซึ่งเชื่อมระหว่างบ้านท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต และบ้านท่านุ่นของ จ.พังงา โดยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 มีความยาวทั้งหมด 660 เมตร เปิดใช้ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 ซึ่งมีหอชมวิวเป็นอาคารทรง 8 เหลี่ยม ที่ได้รับการออกแบบในสไตล์ชิโนโปรตุกีส ผสมผสานกับหลังคาทรงปั้นหยาของภาคใต้

ตำนานรัก สะพานสารสิน

สะพานแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันจากเพลงและภาพยนตร์ที่มีชื่อเดียวกันว่า “สะพานรักสารสิน” ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้เบื้องหลังของเรื่องราวที่เคยถูกพูดถึงไปทั่วประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง สะพานแห่งนี้เป็นสถานที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมของคู่รักหนุ่มสาวต่างฐานะที่ถูกกีดกัน และตัดสินใจจบชีวิตด้วยการใช้ผ้าขาวม้ามัดตัวไว้ด้วยกัน ก่อนจะกระโดดจากสะพานลงสู่ผิวน้ำ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2516 นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าของกระต่ายขาวตาสีแดงคู่หนึ่ง ที่มักออกมาให้เห็นในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงที่เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของทั้งคู่

เพลิดเพลินแบบเต็มที่ ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจ ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้นเราจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ จาก Beyond Skywalk Nangshi รวมระยะเวลาที่ถูกหยุดเอาไว้ ณ ที่แห่งนี้ 7 วัน 6 คืน เป็นการเดินทางระยะทางร่วมกว่า 1,800 กิโลเมตร ด้วยรถยนต์ Honda Civic e:HEV EL+ ที่สุดของความประหยัดน้ำมัน เพียง 2.5 ถังเท่านั้น ตลอดการเดินทาง! สุดท้ายนี้เราก็ต้องขอจบทริป “ขับ Honda Civic e:HEV ไปดื่มด่ำบรรยากาศสุด Unseen @Beyond Skywalk Nangshi” ไว้แต่เพียงเท่านี้ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะ

:’)

ขอขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่สนับสนุนยานพาหนะคันเก่ง Honda Civic e:HEV EL+ สำหรับการเดินทางผจญภัยในครั้งนี้

---

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Beyond Skywalk Nangshi

• ที่ตั้ง : 9/9 หมู่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง เทศบาลเมืองพังงา 82130
• พิกัด Google Maps : bit.ly/4dV0EZJ
• สอบถามข้อมูลโรงแรม : +66 (0) 76 429960
• สอบถามข้อมูลสกายวอล์ค : +66 (0) 76 429965 
• จองห้องพัก : +66 (0) 76 592300, +66 (0) 76 592333
• อีเมลเพื่อการจอง : reservations@katagroup.com, rsvn-bsky@katagroup.com
• เว็บไซต์ : https://skywalk-nangshi.beyondresort.com
• Facebook : https://www.facebook.com/BeyondSkywalkNangshi/
• Instagram : https://www.instagram.com/beyondskywalknangshi
• เวลา เปิด-ปิด บียอน สกายวอล์ค : ทุกวัน 6.00 น. – 19.00 น.
• เวลา เปิด-ปิด สระว่ายน้ำและพลูบาร์ : ทุกวัน 10.00 น. – 18.00 น.
• เวลา เปิด-ปิด Kanda Coffee & Bakery : ทุกวัน 6.30 น. – 18.00 น.
• เวลา เปิด-ปิด ห้องอาหาร Horizon : ทุกวัน 6.30 น. – 10.00 น. และ 17.00 น. – 22.00 น.
• เวลา เปิด-ปิด ห้องอาหารลับตะวัน : ทุกวัน 6.30 น. – 19.00 น.

---

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Honda Civic e:HEV EL+

• เว็บไซต์ : https://www.honda.co.th/civic
• ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง : 02-3417777

---

เรื่องและภาพ โดย : นลัท โรจน์วัฒนวงศ์