สัมผัสมนต์เสน่ห์ “20 งานหัตถกรรมร่วมสมัย” ของชาวร้อยเอ็ด

ชวนเยื้องกายไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ “งานหัตถกรรมร่วมสมัย” อันโดดเด่นของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ทุกระเบียบนิ้วของผืนผ้า ทุกขั้นตอนการเลือกสรรวัสดุ การลงมือทำล้วนมีความละเมียดละไม ผสมผสานวัฒนธรรมไทยท้องถิ่นอีสานอันดีงามเข้ากับยุคสมัยอย่างกลมกล่อม อีกทั้งชูเอกลักษณ์ความสวยงามของวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และความคิดสร้างสรรค์ของชุมชนร้อยเอ็ดรังสรรค์สู่งานหัตถกรรมออกมาได้อย่างลงตัว ซึ่งเหมาะกับทุกคน ทุกวัย และนับเป็นอีกแฟชั่นไทยที่จะทำให้คนรุ่นใหม่ได้สนุกไปกับการแต่งตัวที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย รวมทั้งได้เผยแพร่ เสน่ห์วัฒนธรรมไทยสู่ตลาดสากลมากยิ่งขึ้น โดยผลงานหัตถกรรมร่วมสมัย รังสรรค์โดยชาวร้อยเอ็ด นับว่ามีความโดดเด่น และถ่ายทอดเสน่ห์เรื่องราวที่ชวนผู้คนมองแล้วทำให้ตกหลุมรักจังหวัดร้อยเอ็ดมากเลยทีเดียว ในโอกาสพิเศษครั้งนี้ จึงขอพาไปสัมผัส 20 งานหัตถกรรมร่วมสมัย จาก 20 ชุมชนว่ามีอะไรบ้าง  

กระเป๋าช้อปปิ้ง สไตล์โมเดิร์น โดยกลุ่มทอผ้าไหมบ้านโนนท่อน อำเภอปทุมรัตต์ ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือทอผ้า ทอเสื่อกก ลายสาเกต ลายบัวปทุม อันเป็นลายเอกลักษณ์ของจังหวัดร้อยเอ็ด จึงมีการปรับลวดลายให้โมเดิร์นตามยุคสมัยใหม่ นำผ้าขาวม้า ผ้าไนล่อน ผ้าคอตตอนลวดลายดั้งเดิมมาดัดแปลงให้เป็นกระเป๋าช้อปปิ้ง สวยงาม แข็งแรง ทำความสะอาดง่าย และเพิ่มความโฉบเฉี่ยว เปรี้ยวซ่า ให้มีสไตล์ยิ่งขึ้น

ฟืมทอผ้าที่ระลึก โดยกลุ่มทำฟืมและแปรรูปผลิตภัณฑ์ฟืม อำเภอเชียงขวัญนำอุปกรณ์ทอผ้า “ฟืม” อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด ทำจากไม้มงคลคุณภาพดี เช่น ไม้สัก ไม้คูณ ไม้ชัยพฤกษ์ เพื่อใช้ทอผ้าไหม ผ้าฝ้าย หรือผ้าด้าย รังสรรค์เป็นชิ้นงานสวยงาม ขณะเดียวกันคำว่า ฟืม มีความหมายมงคลที่หมายถึง ครอบครัวที่รักใคร่ กลมเกลียวกันด้วย จึงเป็นไอเดียสู่การต่อยอดงานหัตถกรรม โดยเปิดให้ติดคำที่มีความหมายมงคล ตามใจผู้ซื้อเพื่อเป็นของที่ระลึก ซื้อไว้ติดบ้าน

ผ้าพันคอ บ้านสนามชัย โดยกลุ่มทอผ้าสนามชัย อำเภอศรีสมเด็จ รังสรรค์จากปกเสื้อโปโลที่ไม่ใช้แล้วจากโรงงานมาเลาะออกมาเป็นเส้นด้ายพุ่ง ซึ่งเป็นด้าย Kinitt ให้สัมผัสที่นุ่มนวล พร้อมออกแบบลวดลายที่สะท้อนเอกลักษณ์ของชุมชนที่ขึ้นชื่อเรื่องการเลี้ยงโคขุน โดยก่อนทอผ้าพันคอนั้น จะนำด้ายมาย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกไม้ และใบไม้ เพื่อให้เกิดลวดลายและโทนสีที่เข้ากับเครื่องแต่งกายทุกรูป ซึ่งชุมชนนี้ยังเป็นแห่งแรกๆ ที่มีการทอผ้าพันคออีกด้วย

กระเป๋าอเนกประสงค์ “บ้านสองพี่น้อง” โดยกลุ่มย้อมสีธรรมชาติลักษณ์พิน อำเภอโพนทอง รังสรรค์จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้นำพืชพันธุ์หลากหลาย เช่น ต้นประดู่ ต้นคราม มาสกัดสีธรรมชาติใช้ย้อมผ้า และนำผ้าที่ย้อมสีธรรมชาติมาพัฒนาต่อยอด ตัดเย็บเป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ ดีไซน์สวยงาม และทันสมัย

กระเป๋าอเนกประสงค์ “บ้านตาหยวก” โดยกลุ่มชุมชนทอผ้าไหมบ้านตาหยวก อำเภอสุวรรณภูม เกิดจากการทอผ้าไหมลายสาเกตที่แพร่หลายและเหลือใช้จำนวนมากในจังหวัดร้อยเอ็ด ทำให้ปิ๊งไอเดียนำเศษผ้ามาตัดเย็บเป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ ที่มีสีสันลวดลายดูเท่ ทันสมัย มีสายคล้องข้อมือทำจากหนังเทียมเสริมความเก๋ โดยเน้นให้มีรูปทรง ขนาดพอเหมาะ พกพาง่าย และด้านในบุฟองน้ำกันกระแทกอีกชั้น สามารถใส่แทปเล็ตได้

ผ้าลายรวงข้าว “บ้านเขวาสามัคคี” โดยกลุ่มทอผ้าไหมมัดหมี่ อำเภอเกษตรวิสัย ซึ่งเป็นอำเภอที่ขึ้นชื่อด้านการปลูกข้าวหอมมะลิอย่างมาก จึงได้นำมาผสมผสานกับการทอผ้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทักษะสุดชำนาญ รังสรรค์สู่ผลงานผ้ามัดหมี่ลายรวงข้าว เพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์ในการเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิชั้นดีของประเทศไทย

แจกันไหล โดยกลุ่มจักสานบ้านอ้น อำเภอจตุรพักตรพิมาน เนื่องจากพื้นที่ราว 800 ไร่ เป็นป่าสาธารณะประโยชน์ มีต้นไหลขึ้นตามธรรมชาติจำนวนมาก จึงนำต้นไหลมาสานและเย็บเป็นกระติกข้าวกันมายาวนาน ต่อมายุคสมัยเปลี่ยนจึงเกิดไอเดียใหม่ๆ จักสานเป็นผลิตภัณฑ์แจกันไหล ทรงกระบอก ใช้ไหลสีธรรมชาติมาจักสานกับเชือกไนล่อนสีเหลือง เกิดเป็นลวดลายข้าวหลามตัดอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน เหมาะกับการตกแต่งทุกที่อย่างมีรสนิยม

เสื้อกระเหรี่ยงจากผ้าพันคอ โดยกลุ่มทอผ้าสัมมาชีพ บ้านสะอาด อำเภอโพธิ์ชัย เดิมบ้านสะอาดมีชื่อว่า บ้านโซ่ เพราะมีชาวไทยโซ่มาอาศัยและเลี้ยงช้างจำนวนมาก ซึ่งชุมชนแห่งนี้มักใช้ผ้าทอมือมอบเป็นของขวัญให้แก่ผู้ใหญ่ที่มาเยี่ยมเยียนเสมอ จึงเกิดการรวมกลุ่มพัฒนางานฝีมือด้านการทอผ้า และได้ตัดเย็บเสื้อกระเหรี่ยง ทรงหลวม โดยดัดแปลงมาจากผ้าขาวม้า ทอเชิงผ้าเป็นลายดอกแก้ว ตกแต่งด้วยพู่ สวมใส่สบายขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน

กระเช้าทอรุ้ง “บ้านดงทรายงาม” โดยกลุ่มทอเสื่อกกและแปรรูปกระเป๋าจากเสื่อกก อำเภอหนองพอกใช้ต้นไหลและต้นกกตามธรรมชาติมาสานให้เป็นกระเช้าอเนกประสงค์ รูปทรงสวยงาม สานเป็นลายดอกลำดวน เอกลักษณ์ของชุมชน เหมาะสำหรับใส่ของฝาก ของขวัญ หรือใส่สิ่งของเล็กๆ แล้วคล้องแขนก็ดูน่ารัก ทันสมัย

กระเป๋าถือต้นธูป “บ้านโนนค้อ” โดยกลุ่มจักสานผักตบชวา บ้านโน้นค้อ อำเภอเมืองสรวง เกิดจากการแปรรูปต้นธูป ซึ่งขึ้นตามแหล่งชุมชนจำนวนมาก มาทำเป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าถือต้นธูป ซึ่งเป็นผลงานจักสานที่สวยงาม และประณีตทุกกระบวนการ โดยนำต้นธูปตากแห้งมาจักสานขึ้นธูป บุด้านในด้วย ผ้าดิบลายสอง เพิ่มหูรูดกระเป๋าทำจากหนังเทียมสวยงาม เพื่อความหลากหลายในการใช้งานมากขึ้น

กระเป๋าฝ้ายวารี “บ้านขว้างใหญ่” โดยกลุ่มทอผ้าฝ้ายบ้านขว้างใหญ่ (ฝ้ายวารี) อำเภอทุ่งเขาหลวง ออกแบบขึ้นมาเพื่อรับเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนลดการใช้ถุงพลาสติก และหันมาใช้กระเป๋าผ้ามากขึ้น จึงต่อยอดการทอผ้าแบบวิถีชุมชนท้องถิ่น ออกแบบกระเป๋าฝ้ายวารี ดีไซน์ทันสมัย สีสันสวยงาม สะพายไปซื้อของหรือไปเที่ยว คนรุ่นใหม่ต้องชื่นชอบ

กระเป๋าเกตวารี “บ้านบึงโดน” โดยกลุ่มทอผ้าลายสาเกต อำเภอจังหาร จากงานอดิเรกของชาวบ้านที่ชื่นชอบการทอผ้าไหมลายสาเกต ลายเอกลักษณ์ของจังหวัดร้อยเอ็ด พัฒนาสู่การสร้างอาชีพ เสริมรายได้ โดยกระเป๋าเกตวารีนำผ้าไหมลายสาเกตมาขึ้นรูปเป็นกระเป๋าทรงแข็ง มีสายสะพายโซ่และตัวล็อกสีทอง สวยงาม หรูหรา เหมาะสำหรับใช้ออกงานสังคม

ชุดแซกผ้าฝ้ายคญา “บ้านผักกาดหญ้า” โดยกลุ่มทอผ้าไหมมัดหมี่บ้านผักกาดหญ้า อำเภอเสลภูมิ รังสรรค์จากผ้าฝ้าย ผ้าขาวม้า ให้มีรูปทรงทันสมัย สไตล์มินิมอล ใส่สบาย ตกแต่งด้วยกระดุมที่ทำจากกะลามะพร้าว พร้อมหมวกลายเดียวกัน เหมาะสำหรับใส่ได้ทุกช่วงโอกาส

กระเป๋าถือโคกสว่าง โดยกลุ่มจักสานกระติบข้าว อำเภอพนมไพร ซึ่งขึ้นชื่อด้านการจักสานที่แสดงอัตลักษณ์ชุมชนได้อย่างสวยงาม โดยกระเป๋าถือโคกสว่าง สะท้อนความเป็นตัวตนของชาวโคกสว่างที่เกิดจากการรวมตัวกันเป็นกลุ่มจักสานกระติบข้าว ใช้ ‘ต้นไหล’ วัสดุท้องถิ่นสำคัญมาจักสานเป็นกระเป๋า และตกแต่งด้วยหนังเทียม สวยงาม และคงทนต่อการใช้งาน 

ผ้าลาย 101 โดยกลุ่มทอผ้าบ้านหนองเขวา (ผ้าไหมผ้าฝ้ายแม่คำกอง) อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ชุมชนนี้มีการทอผ้าไหม เลี้ยงหม่อนไหม และสืบสานลายในการทอมาจากบรรพบุรุษ เช่น ลายหมากจับ ลายต้นส้น ลายนกยูง ปัจจุบันได้รวมกลุ่มเพื่อออกแบบลายใหม่ๆ จนได้ลายหวายน้อย โดยมีเชิงผ้ามัดลาย 101 ในแบบกราฟิกลดทอน ให้ดูสวยงาม ทันสมัย ซึ่งผ้าลายนี้ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มต่างๆ ได้หลายรูปแบบ เหมาะกับทุกคน ทุกวัย

ชุดรองจาน รองแก้ว โดยกลุ่มสานกระติบข้าวด้วยต้นไหล อำเภอหนองฮี จากการเห็นช่องทางในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งใช้ทักษะการจักสานที่ชำนาญมาต่อยอด จึงผลิตชุดรองจาน รองแก้ว ที่ทำจากต้นไหล โดยเฉพาะแผ่นรองจาน มีการนำไหลมาย้อมสี แล้วสานสลับกับไหลสีธรรมชาติ ตั้งวางบนโต๊ะอาหารได้สวยงาม ดูทันสมัย

กระเป๋าผ้าบ้านดอนกลอย โดยกลุ่มทอผ้าบ้านดอนกลอย อำเภอธวัชบุรี เพื่อต้องการเผยแพร่ฝีมือการทอผ้าที่ประณีต บรรจง ไม่แพ้ใครให้ผู้คนทราบ จึงรวมตัวกันนำผ้าขาวม้าลายงดงาม มาตัดเย็บตามการออกแบบที่เรียบง่าย แต่พิถีพิถันทุกขั้นตอน เกิดเป็นกระเป๋าผ้าบ้านดอนกลอย สวย เท่ มีประโยชน์ และพกพาง่าย

ถุงหอมทองไหลมา โดยกลุ่มทอเสื่อกกบ้านจ้อก้อ อำเภออาจสามารถ   ชื่อเสียงในการทอเสื่อกก และทอผ้าของชุมชนถือเป็นที่เลื่องลาเช่นกัน ซึ่งชุมชนนี้ได้นำการทอเสื่อกกและทอผ้ามาออกแบบและตัดเย็บผสมผสานกัน เกิดเป็นถุงหอมทองไหลมา ถุงใส่สมุนไพรหอมที่มีสรรพคุณทางยา ใช้แขวนในห้อง ตู้เสื้อผ้า หรือในรถเพื่อสร้างความหอม สดชื่น และการใช้ผ้ากับเสื่อกก ยังช่วยให้กลิ่นสมุนไพรระเหยออกมาช้าๆ นับเป็นการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นต่อยอดได้ดีเยี่ยม

กระเป๋าผ้าใส่เอกสาร “บ้านหนองบัวดอนต้อน” โดยกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ อำเภอโพนทราย ยกระดับผ้าขาวม้าสู่การรังสรรค์เป็นกระเป๋าผ้าใส่เอกสาร โดยนำผ้าขาวม้าลายสวยงามที่ทอขึ้นมา ตัดเย็บใหม่ บุฟองน้ำ ในกระเป๋าติดซิป และติดสายคล้องมือทำจากหนังเทียม ซึ่งทุกขั้นตอนล้วนพิถีพิถันและทำอย่างตั้งใจ และเป็นการต่อยอดทักษะการทอผ้าไปอีกขั้นด้วยเช่นกัน

โคมไฟจากลูกสำโรง “บ้านหนองม้า” โดยกลุ่มศิลปะประดิษฐ์วัสดุจากธรรมชาติ (ถิ่นป่า) อำเภอเมยวดี เนื่องจากแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพืชผัก พันธุ์ไม้ต่างๆ รวมถึงต้นสำโรง จึงเกิดเป็นไอเดียนำต้นสำโรงมาประดิษฐ์เป็นโคมไฟ และนำลูกสำโรงแห้งมาติดหลอดไฟ ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นนั้นมีเอกลักษณ์ ดีไซน์เล็กน้อยไม่ซ้ำกัน จึงถือเป็นงานศิลปะชิ้นเดียวในโลกก็ว่าได้

พินิจชมแต่ละผลงานแล้ว ฝีมืองานหัตถกรรมของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม เลยทีเดียว!